คอนโดมิเนียมระดับ Luxury ส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่
SINGHA COMPLEX โดยเปิดขายโซนพิเศษด้วยห้องชุดแบบ Japanese Style
ที่มีเพียง 22 ยูนิตเท่านั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75-77 ตารางเมตร 1-2
ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
Company
ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ พัฒนาโครงการโดยบริษัท สิงห์
พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือบมจ.สิงห์ เอสเตท
ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบริษัท
บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำหรับบริษัท สิงห์ เอสเตทจำกัด (มหาชน) เดิมชื่อ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ในชื่อเดิมว่า “บริษัท พาณิชย์ภูมิพัฒนา จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านจัดสรรและอาคารชุดพักอาศัย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวันที่ 12 กันยายน 2557 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
ปัจจุบันบริษัทฯได้ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน 3 กลุ่มหลักๆ คือ 1.ธุรกิจด้านอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก 2.ธุรกิจโรงแรม และ3.ธุรกิจพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ที่มีทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียม เพื่อตอบสนองความต้องการตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับบน ภายใต้ชื่อแบรนด์ที่หลากหลาย พร้อมกับพัฒนาและบริหารการขายผ่านบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เนอร์วานา ไดอิ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอส 36 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยมีผลงานโครงการ อาทิ The ESSE Sukhumvit 36, อีส สุขุมวิท 43, สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส บ้านเดี่ยวระดับ Ultra Luxury, The ESSE at Singha Complex รวมทั้ง Singha Complex โครงการ Mixed-use ระดับ Luxury แห่งแรกของบริษัทฯ
Location โครงการตั้งอยู่บริเวณหัวมุมสี่แยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้งของสถานทูตญี่ปุ่น จากทำเลที่ตั้งของโครงการสามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนเพชรบุรีและถนนอโศก โดยบริเวณด้านหน้าจึงอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ด้านข้างอยู่ติดกับถนนอโศก ส่วนด้านหลังอยู่ติดกับคลองแสนแสบ ซึ่งมีท่าเรือโดยสาร(เส้นทางวัดศรีบุญเรือง-สะพานผ่านฟ้าลีลาศ) มีจุดขึ้น-ลงตรงท่าอโศก(สะพานข้ามคลองแสนแสบ) นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนรัชดาภิเษก, ถนนพระราม 9, ถนนสุขุมวิท, ถนนพระราม 4
นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางด่วน ทั้งทางด่วนขั้นที่ 2 (พระราม 9-ศรีนครินทร์) ทางพิเศษฉลองรัช(ทางด่วนสายรามอินทรา-อาจณรงค์) และมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ย่านใจกลางเมืองกับโซนอื่นๆ หรือจังหวัดทางภาคตะวันออก รวมทั้งการเดินทางไปใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
ที่สำคัญยังเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีเพชรบุรี, รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก( MRT สถานีสุขุมวิท) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ที่สถานีมักกะสัน ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีราชเทวี จึงทำให้การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆมีความสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้า MRT นั้นยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางซื่อ, หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ), รถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างในปัจจุบัน มีกำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการปี 2566
ในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายใหม่เพิ่มเติม ทั้งสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี), สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และส่วนต่อขยายสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน,ตลิ่งชัน-ศาลายา และตลิ่งชัน-ศิริราชได้ด้วย ส่งผลทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการสามารถใช้โครงข่ายรถไฟฟ้าทั้งหมดนี้ เพื่อเชื่อมโยงไปยังพื้นที่รอบกรุงเทพฯและปริมณฑลได้อย่างสะดวกมากขึ้น
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ เนื่องจากโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ “Singha Complex” บนพื้นที่ดิน 11 ไร่ ประกอบด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอสูง 42 ชั้น ส่วนพื้นที่ค้าปลีกเป็นอาคารสูง 4 ชั้น ขนาดพื้นที่รวม 2 อาคาร ประมาณ 120,000 ตารางเมตร มีทั้งร้านค้าปลีก อาทิ ท็อปส์เดลี่, ร้านกาแฟ-เครื่องดื่ม, ร้านอาหาร รวมถึงสำนักงานเกรดเอให้เช่า, ซาลอน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจทั้งในและนอกอาคาร อาทิ Amphitheatre พื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งพักผ่อนหรือทำงาน ซึ่งมีบริการฟรี Super WIFI ความเร็วสูงถึง 1GB/Sec และพื้นที่ออกกำลังกายลู่วิ่งจ็อกกิ้งบนดาดฟ้า (Rooftop Jogging Track) ของอาคารค้าปลีก เป็นต้น
ส่วนแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ไม่ไกล สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าเดินทางได้อย่างสะดวก เช่น ศูนย์การค้าย่านพระราม 9 ที่มีทั้งห้างเซ็นทรัล พระราม 9, Show DC, เอสพานาด, โลตัส, บิ๊กซี, เดอะสตรีท, RCA พระราม 9 ส่วนย่านสุขุมวิท ก็มีห้างเทอร์มินัล 21, เอ็มโพเรี่ยม, เอ็มควอเทียร์ หรือจะไปแฮงค์เอ้าท์ย่านทองหล่อก็สะดวกเช่นกัน นอกจากนี้ยังใกล้สถานศึกษาชั้นนำ เช่น รร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร,มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สถานพยาบาล อาทิ รพ.กรุงเทพ , รพ.พระราม 9, รพ.ปิยะเวท, รพ.จักษุรัตนิน ฯลฯ
ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีแผนพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เชื่อมโยงกับพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(ECC) รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือ TOD พื้นที่โดยรอบสถานีมักกะสัน “มักกะสัน คอมเพล็กซ์” มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน, โรงแรม, พื้นที่ค้าปลีก, ศูนย์ประชุม, โรงพยาบาล, ที่พักอาศัย, พิพิธภัณฑ์รถไฟบนเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ และสวนสาธารณะอีกประมาณ 150 ไร่
ดังนั้น ศักยภาพของทำเลอโศก-เพชรบุรี จึงมีแนวโน้มในการพัฒนาที่ดินทั้งเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยแนวสูง อันเนื่องมาจาก Mega Project ของภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีโครงข่ายคมนาคมที่ครบครันทั้งถนน, ทางด่วน, รถไฟฟ้า, รถไฟความเร็วสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ส่งผลทำให้คอนโดมิเนียมเปิดใหม่หลายแห่งมีระดับราคาขายสูงกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว
Project Concept
บนพื้นที่โครงการ 2 ไร่ 98.2 ตารางวา พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Luxury สูง 39 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 319 ยูนิต โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ มิกซ์ยูสที่มีทั้งพื้นที่สำนักงานเกรดเอและไลฟ์สไตล์มอลล์ ภายใต้แนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรวงข้าวบาร์เลย์สีทอง มีการผสานเส้นสายสีทองแชมเปญที่เรียบง่ายกับกระจกสีเทาที่ล้อมรอบกรอบอาคารให้ความรู้สึกหรูหรา เหนือกาลเวลา โดดเด่นด้วยพื้นที่สระว่ายน้ำที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า และ Sky Feature บนยอดอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ นับเป็นอีกหนึ่ง Landmark ใหม่บนถนนเส้นนี้
.......
ขณะที่การออกแบบผังโครงการให้มีความเป็นส่วนตัวสูง พื้นที่สวนด้านหน้าอาคารถูกดีไซน์ยกระดับเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายในโครงการ ล็อบบี้ขนาดใหญ่แบบ double volume พร้อมพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ การดีไซน์พื้นที่จอดรถสำหรับรถ Super Car พื้นที่สวนส่วนกลางบนชั้น 8 เปิดมุมมองเชื่อมต่อจากพื้นที่สีเขียวภายในโครงการไปยังพื้นที่สีเขียวบริเวณมักกะสัน
ที่เป็นไฮไลต์สำคัญอีกประการ คือ พื้นที่ส่วนกลางแบบ Sky Fourplex บนชั้น 36 และ 37 ซึ่งออกแบบให้มีฟังก์ชั่นหลากหลาย อาทิ ห้องสมุด, ห้องประชุม, ห้องทำงาน(Co-working area), ห้องจัดเลี้ยงในโอกาสพิเศษ, Private Theater, ห้องซาลอน รวมทั้งมีโซนออกกำลังกาย (Fitness) พร้อมเครื่องออกกำลังกาย, เวทีมวย, หน้าผาจำลองขนาดสูงกว่า 6 เมตร,ห้องออกกำลังกายส่วนตัว, ห้องสปาและซาลอนส่วนตัว, สระว่ายน้ำ Sky Edge Swimming Pool, ห้องซาวน่า และออนเซ็นแยกชาย-หญิง, Wifi อินเตอร์เน็ตบริเว๊ล็อปบี้และพื้นที่ส่วนกลาง, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ในโครงการ เช่น Smart Film ติดกระจกห้องน้ำ 1bedroom 47 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 77 ตารางเมตร และ Home Automation เพื่อทำให้การใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมมีความสะดวกสบายมากขึ้น
Product Concept
ภายในโครงการประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัยซึ่งตกแต่งครบ แบบ Fully Furnished (Japanese Style) ด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์พิเศษ โดยมีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน ดังนี้
- แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75 -47.75 ตารางเมตร
- แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 70-77 ตารางเมตร
- แบบห้อง Penthouse ขนาดพื้นที่ใช้สอย 215.5 ตารางเมตร
ปัจจุบันงานก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ และจะส่งมอบห้องชุดได้ประมาณเดือนตุลาคม 2562 โดยล่าสุดได้เปิดขายเฟสพิเศษจำนวน 2 ชั้น คือ ชั้น 17 และ 32 ซึ่งเป็นโซนที่ตกแต่งทั้งภายนอกและภายในห้องชุดแบบ Japanese Style มีเพียง 22 ยูนิตเท่านั้น แบ่งเป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75 ตารางเมตร และ 47.75 ตารางเมตร และห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร และ 77 ตารางเมตร
สำหรับการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Japanese ร่วมสมัย ด้วยการนำกลิ่นอายจากฤดูกาลของญี่ปุ่นมาและเสื่อทาทามิเข้ามาใช้ในการออกแบบและตกแต่งห้องชุด เพื่อให้รู้สึกสัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น โดยมีห้องชุดตัวอย่างให้เยี่ยมชม(ที่บริเวณชั้น 17)อยู่ 2 แบบ คือ 1.ห้องชุด ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.75 ตารางเมตร และ2.ห้องชุด ขนาดพื้นที่ใช้สอย 77 ตารางเมตร
ห้องชุดแบบแรก มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.75 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยมีลักษณะของห้องชุดให้เลือก 2 แบบ คือ ห้องแนวแบบหน้ากว้าง รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โปร่ง โล่ง มองเห็นวิวได้ทั้งสองฝั่ง และห้องแบบตอนลีก จะให้ความรู้สึกเสมือนอยู่บ้านเดี่ยวมากกว่า พร้อมห้องครัวแบบปิด
เริ่มจากการออกแบบบริเวณด้านหน้าห้องเป็น Single Corridor ประตูห้องไม่ชนกัน เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ประตูเป็นแบบดิจิตอลบานสูงจากพื้นจรดเพดาน
พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวแผ่นใหญ่ ด้านซ้ายมือเป็นส่วนครับแบบแพนทรี ถัดไปเป็นประตูกระจกบานสไลด์ เลื่อนเปิด-ปิดสะดวก กั้นแยกพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัวอีกชั้นหนึ่ง
โซน Living Room และส่วนรับประทานอาหาร มีกระจกบานสูงเปิดรับแสงสว่าง และชมวิวภายในนอกได้อย่างเต็มที่ โดยห้องตัวอย่างนี้จะสามารถมองเห็นวิวได้ทั้งฝั่งมักกะสันและอโศก
ฝั่งขวามือเป็นห้องนอนกั้นแยกเป็นสัดส่วน โปร่ง โล่ง ด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว
ส่วนห้องชุดแบบที่ 2 มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 77 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เป็นลักษณะห้องมุมที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั้งสองฝั่ง
เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วจะพบกับแพนทรีครัว สีขาวสะอาดตา ด้านหลังส่วนครัวเป็นห้องน้ำ พร้อมฉากกระจกกั้นส่วนอาบให้ด้วย
ขณะที่ด้านซ้ายมือเป็นส่วนรับประทานอาหาร ถัดไปเป็นโซน Living Room ที่มองเห็นวิวภายนอกได้กว้างไกล
ห้องนอนเล็ก มีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงสว่างจากภายนอกได้เต็มที่
ด้านห้องนอนใหญ่ซึ่งมีห้องน้ำในตัว พร้อมอ่างอาบน้ำและกระจกเข้ามุม กว้างพอที่กั้นแบ่งเป็นมุม Walk in Closet เล็กๆได้สบาย
Price & Promotion
ห้องชุดแบบ Japanese Style ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท ส่วนห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.75 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 14.8 ล้านบาท และห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 23 ล้านบาท
Conclusion
โครงการคอนโดมิเนียม The ESSE at Singha Complex จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตในเมือง ที่มีความครบครันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง การทำงาน และการช้อปปิ้ง-พักผ่อน ซึ่งอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม บนทำเลที่มีศักยภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นไม่ว่าจะซื้อไว้เพื่อการอยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนในระยะยาวก็ล้วนแล้วแต่คุ้มค่าน่าสนใจทั้งนั้น
สำหรับบริษัท สิงห์ เอสเตทจำกัด (มหาชน) เดิมชื่อ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ในชื่อเดิมว่า “บริษัท พาณิชย์ภูมิพัฒนา จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านจัดสรรและอาคารชุดพักอาศัย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวันที่ 12 กันยายน 2557 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
ปัจจุบันบริษัทฯได้ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน 3 กลุ่มหลักๆ คือ 1.ธุรกิจด้านอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก 2.ธุรกิจโรงแรม และ3.ธุรกิจพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ที่มีทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียม เพื่อตอบสนองความต้องการตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับบน ภายใต้ชื่อแบรนด์ที่หลากหลาย พร้อมกับพัฒนาและบริหารการขายผ่านบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เนอร์วานา ไดอิ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอส 36 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยมีผลงานโครงการ อาทิ The ESSE Sukhumvit 36, อีส สุขุมวิท 43, สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส บ้านเดี่ยวระดับ Ultra Luxury, The ESSE at Singha Complex รวมทั้ง Singha Complex โครงการ Mixed-use ระดับ Luxury แห่งแรกของบริษัทฯ
Location โครงการตั้งอยู่บริเวณหัวมุมสี่แยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้งของสถานทูตญี่ปุ่น จากทำเลที่ตั้งของโครงการสามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนเพชรบุรีและถนนอโศก โดยบริเวณด้านหน้าจึงอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ด้านข้างอยู่ติดกับถนนอโศก ส่วนด้านหลังอยู่ติดกับคลองแสนแสบ ซึ่งมีท่าเรือโดยสาร(เส้นทางวัดศรีบุญเรือง-สะพานผ่านฟ้าลีลาศ) มีจุดขึ้น-ลงตรงท่าอโศก(สะพานข้ามคลองแสนแสบ) นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนรัชดาภิเษก, ถนนพระราม 9, ถนนสุขุมวิท, ถนนพระราม 4
นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางด่วน ทั้งทางด่วนขั้นที่ 2 (พระราม 9-ศรีนครินทร์) ทางพิเศษฉลองรัช(ทางด่วนสายรามอินทรา-อาจณรงค์) และมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ย่านใจกลางเมืองกับโซนอื่นๆ หรือจังหวัดทางภาคตะวันออก รวมทั้งการเดินทางไปใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
ที่สำคัญยังเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีเพชรบุรี, รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก( MRT สถานีสุขุมวิท) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ที่สถานีมักกะสัน ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีราชเทวี จึงทำให้การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆมีความสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้า MRT นั้นยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางซื่อ, หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ), รถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างในปัจจุบัน มีกำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการปี 2566
ในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายใหม่เพิ่มเติม ทั้งสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี), สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และส่วนต่อขยายสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน,ตลิ่งชัน-ศาลายา และตลิ่งชัน-ศิริราชได้ด้วย ส่งผลทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการสามารถใช้โครงข่ายรถไฟฟ้าทั้งหมดนี้ เพื่อเชื่อมโยงไปยังพื้นที่รอบกรุงเทพฯและปริมณฑลได้อย่างสะดวกมากขึ้น
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ เนื่องจากโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ “Singha Complex” บนพื้นที่ดิน 11 ไร่ ประกอบด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอสูง 42 ชั้น ส่วนพื้นที่ค้าปลีกเป็นอาคารสูง 4 ชั้น ขนาดพื้นที่รวม 2 อาคาร ประมาณ 120,000 ตารางเมตร มีทั้งร้านค้าปลีก อาทิ ท็อปส์เดลี่, ร้านกาแฟ-เครื่องดื่ม, ร้านอาหาร รวมถึงสำนักงานเกรดเอให้เช่า, ซาลอน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจทั้งในและนอกอาคาร อาทิ Amphitheatre พื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งพักผ่อนหรือทำงาน ซึ่งมีบริการฟรี Super WIFI ความเร็วสูงถึง 1GB/Sec และพื้นที่ออกกำลังกายลู่วิ่งจ็อกกิ้งบนดาดฟ้า (Rooftop Jogging Track) ของอาคารค้าปลีก เป็นต้น
ส่วนแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ไม่ไกล สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าเดินทางได้อย่างสะดวก เช่น ศูนย์การค้าย่านพระราม 9 ที่มีทั้งห้างเซ็นทรัล พระราม 9, Show DC, เอสพานาด, โลตัส, บิ๊กซี, เดอะสตรีท, RCA พระราม 9 ส่วนย่านสุขุมวิท ก็มีห้างเทอร์มินัล 21, เอ็มโพเรี่ยม, เอ็มควอเทียร์ หรือจะไปแฮงค์เอ้าท์ย่านทองหล่อก็สะดวกเช่นกัน นอกจากนี้ยังใกล้สถานศึกษาชั้นนำ เช่น รร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร,มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สถานพยาบาล อาทิ รพ.กรุงเทพ , รพ.พระราม 9, รพ.ปิยะเวท, รพ.จักษุรัตนิน ฯลฯ
ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีแผนพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เชื่อมโยงกับพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(ECC) รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือ TOD พื้นที่โดยรอบสถานีมักกะสัน “มักกะสัน คอมเพล็กซ์” มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน, โรงแรม, พื้นที่ค้าปลีก, ศูนย์ประชุม, โรงพยาบาล, ที่พักอาศัย, พิพิธภัณฑ์รถไฟบนเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ และสวนสาธารณะอีกประมาณ 150 ไร่
ดังนั้น ศักยภาพของทำเลอโศก-เพชรบุรี จึงมีแนวโน้มในการพัฒนาที่ดินทั้งเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยแนวสูง อันเนื่องมาจาก Mega Project ของภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีโครงข่ายคมนาคมที่ครบครันทั้งถนน, ทางด่วน, รถไฟฟ้า, รถไฟความเร็วสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ส่งผลทำให้คอนโดมิเนียมเปิดใหม่หลายแห่งมีระดับราคาขายสูงกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว
Project Concept
บนพื้นที่โครงการ 2 ไร่ 98.2 ตารางวา พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Luxury สูง 39 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 319 ยูนิต โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ มิกซ์ยูสที่มีทั้งพื้นที่สำนักงานเกรดเอและไลฟ์สไตล์มอลล์ ภายใต้แนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรวงข้าวบาร์เลย์สีทอง มีการผสานเส้นสายสีทองแชมเปญที่เรียบง่ายกับกระจกสีเทาที่ล้อมรอบกรอบอาคารให้ความรู้สึกหรูหรา เหนือกาลเวลา โดดเด่นด้วยพื้นที่สระว่ายน้ำที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า และ Sky Feature บนยอดอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ นับเป็นอีกหนึ่ง Landmark ใหม่บนถนนเส้นนี้
.......
ขณะที่การออกแบบผังโครงการให้มีความเป็นส่วนตัวสูง พื้นที่สวนด้านหน้าอาคารถูกดีไซน์ยกระดับเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายในโครงการ ล็อบบี้ขนาดใหญ่แบบ double volume พร้อมพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ การดีไซน์พื้นที่จอดรถสำหรับรถ Super Car พื้นที่สวนส่วนกลางบนชั้น 8 เปิดมุมมองเชื่อมต่อจากพื้นที่สีเขียวภายในโครงการไปยังพื้นที่สีเขียวบริเวณมักกะสัน
ที่เป็นไฮไลต์สำคัญอีกประการ คือ พื้นที่ส่วนกลางแบบ Sky Fourplex บนชั้น 36 และ 37 ซึ่งออกแบบให้มีฟังก์ชั่นหลากหลาย อาทิ ห้องสมุด, ห้องประชุม, ห้องทำงาน(Co-working area), ห้องจัดเลี้ยงในโอกาสพิเศษ, Private Theater, ห้องซาลอน รวมทั้งมีโซนออกกำลังกาย (Fitness) พร้อมเครื่องออกกำลังกาย, เวทีมวย, หน้าผาจำลองขนาดสูงกว่า 6 เมตร,ห้องออกกำลังกายส่วนตัว, ห้องสปาและซาลอนส่วนตัว, สระว่ายน้ำ Sky Edge Swimming Pool, ห้องซาวน่า และออนเซ็นแยกชาย-หญิง, Wifi อินเตอร์เน็ตบริเว๊ล็อปบี้และพื้นที่ส่วนกลาง, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ในโครงการ เช่น Smart Film ติดกระจกห้องน้ำ 1bedroom 47 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 77 ตารางเมตร และ Home Automation เพื่อทำให้การใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมมีความสะดวกสบายมากขึ้น
Product Concept
ภายในโครงการประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัยซึ่งตกแต่งครบ แบบ Fully Furnished (Japanese Style) ด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์พิเศษ โดยมีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน ดังนี้
- แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75 -47.75 ตารางเมตร
- แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 70-77 ตารางเมตร
- แบบห้อง Penthouse ขนาดพื้นที่ใช้สอย 215.5 ตารางเมตร
ปัจจุบันงานก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ และจะส่งมอบห้องชุดได้ประมาณเดือนตุลาคม 2562 โดยล่าสุดได้เปิดขายเฟสพิเศษจำนวน 2 ชั้น คือ ชั้น 17 และ 32 ซึ่งเป็นโซนที่ตกแต่งทั้งภายนอกและภายในห้องชุดแบบ Japanese Style มีเพียง 22 ยูนิตเท่านั้น แบ่งเป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75 ตารางเมตร และ 47.75 ตารางเมตร และห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร และ 77 ตารางเมตร
สำหรับการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Japanese ร่วมสมัย ด้วยการนำกลิ่นอายจากฤดูกาลของญี่ปุ่นมาและเสื่อทาทามิเข้ามาใช้ในการออกแบบและตกแต่งห้องชุด เพื่อให้รู้สึกสัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น โดยมีห้องชุดตัวอย่างให้เยี่ยมชม(ที่บริเวณชั้น 17)อยู่ 2 แบบ คือ 1.ห้องชุด ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.75 ตารางเมตร และ2.ห้องชุด ขนาดพื้นที่ใช้สอย 77 ตารางเมตร
ห้องชุดแบบแรก มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.75 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยมีลักษณะของห้องชุดให้เลือก 2 แบบ คือ ห้องแนวแบบหน้ากว้าง รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โปร่ง โล่ง มองเห็นวิวได้ทั้งสองฝั่ง และห้องแบบตอนลีก จะให้ความรู้สึกเสมือนอยู่บ้านเดี่ยวมากกว่า พร้อมห้องครัวแบบปิด
เริ่มจากการออกแบบบริเวณด้านหน้าห้องเป็น Single Corridor ประตูห้องไม่ชนกัน เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ประตูเป็นแบบดิจิตอลบานสูงจากพื้นจรดเพดาน
พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวแผ่นใหญ่ ด้านซ้ายมือเป็นส่วนครับแบบแพนทรี ถัดไปเป็นประตูกระจกบานสไลด์ เลื่อนเปิด-ปิดสะดวก กั้นแยกพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัวอีกชั้นหนึ่ง
โซน Living Room และส่วนรับประทานอาหาร มีกระจกบานสูงเปิดรับแสงสว่าง และชมวิวภายในนอกได้อย่างเต็มที่ โดยห้องตัวอย่างนี้จะสามารถมองเห็นวิวได้ทั้งฝั่งมักกะสันและอโศก
ฝั่งขวามือเป็นห้องนอนกั้นแยกเป็นสัดส่วน โปร่ง โล่ง ด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว
ส่วนห้องชุดแบบที่ 2 มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 77 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เป็นลักษณะห้องมุมที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั้งสองฝั่ง
เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วจะพบกับแพนทรีครัว สีขาวสะอาดตา ด้านหลังส่วนครัวเป็นห้องน้ำ พร้อมฉากกระจกกั้นส่วนอาบให้ด้วย
ขณะที่ด้านซ้ายมือเป็นส่วนรับประทานอาหาร ถัดไปเป็นโซน Living Room ที่มองเห็นวิวภายนอกได้กว้างไกล
ห้องนอนเล็ก มีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงสว่างจากภายนอกได้เต็มที่
ด้านห้องนอนใหญ่ซึ่งมีห้องน้ำในตัว พร้อมอ่างอาบน้ำและกระจกเข้ามุม กว้างพอที่กั้นแบ่งเป็นมุม Walk in Closet เล็กๆได้สบาย
Price & Promotion
ห้องชุดแบบ Japanese Style ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท ส่วนห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.75 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 14.8 ล้านบาท และห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 23 ล้านบาท
Conclusion
โครงการคอนโดมิเนียม The ESSE at Singha Complex จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตในเมือง ที่มีความครบครันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง การทำงาน และการช้อปปิ้ง-พักผ่อน ซึ่งอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม บนทำเลที่มีศักยภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นไม่ว่าจะซื้อไว้เพื่อการอยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนในระยะยาวก็ล้วนแล้วแต่คุ้มค่าน่าสนใจทั้งนั้น
Fact Sheet
ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ (The ESSE at Singha Complex)
บริษัท สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือบมจ.สิงห์ เอสเตท
ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ 2 ไร่ 98.2 ตารางวา
คอนโดมิเนียมสูง 39 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 319 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องประชุม, ห้องสมุดและพื้นที่ทำงาน, ห้องออกำลังกายพร้อมอุปกรณ์, สระว่ายน้ำและสระเด็ก, ออนเซ็น, ห้องสปาและซาลอน, สกายเทอเรส, ห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัว,สวน, ที่จอดรถ, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
ราคา
Call 1221
www.singhaestate.co.th
ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ (The ESSE at Singha Complex)
บริษัท สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือบมจ.สิงห์ เอสเตท
ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ 2 ไร่ 98.2 ตารางวา
คอนโดมิเนียมสูง 39 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 319 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องประชุม, ห้องสมุดและพื้นที่ทำงาน, ห้องออกำลังกายพร้อมอุปกรณ์, สระว่ายน้ำและสระเด็ก, ออนเซ็น, ห้องสปาและซาลอน, สกายเทอเรส, ห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัว,สวน, ที่จอดรถ, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
ราคา
Call 1221
www.singhaestate.co.th
About thailand
Hi, My Name is Hafeez. I am a webdesigner, blogspot developer and UI designer. I am a certified Themeforest top contributor and popular at JavaScript engineers. We have a team of professinal programmers, developers work together and make unique blogger templates.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น