รีวิวคอนโด เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ หรูเด่นริมฝั่งเจ้าพระยา พร้อมเซอร์วิสระดับตำนานจากแมนดาริน โอเรียนเต็ล

คอนโดซูเปอร์ลักซูรี่ริมฝั่งเจ้าพระยา ออกแบบทุกพื้นที่ให้ความหรูหราเป็นส่วนตัวสูงสุด ออกแบบทุกห้องหันรับวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยามุมกว้าง พร้อมส่วนกลางที่ครบครัน และเซอร์วิสระดับตำนานจากแมนดาริน โอเรียนเต็ล 

Company
         โครงการ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok เป็นคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ที่ร่วมกันพัฒนาโดยบริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ จำกัด และ Mandarin Oriental Hotel Group ภายในพื้นที่ขนาด 50 ไร่ ของโครงการไอคอนสยาม ให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีความพิเศษด้วยการเป็น Branded Residences ในเครือ Mandarin Oriental แห่งที่ 7 ของโลก และเป็นแห่งแรกของอาเซียน
        โดยสิ่งที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้มีหลายเรื่องทีเดียว ทั้งเป็นแปลงที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาตำแหน่งสวยซึ่งหาได้ยากที่สุด อยู่ใกล้ศูนย์การค้าหรู มีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่าง Joyce Wang Studio นักออกแบบชื่อดังชาวฮ่องกงมาดูแลงาน Interior งานสถาปนิกโดย Foster+Partners มาเป็นปรึกษางานออกแบบ เรียกว่าเป็นผลงาน Masterpiece จากการร่วมมือของพาร์ทเนอร์ระดับโลกก็ว่าได้ แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นที่สุดเลยคือเรื่อง Service ครับ เพราะงานนี้ทาง Mandarin Oriental จะเข้ามาดูแลเรื่องงานบริการต่างๆ ภายในโครงการเอง ซึ่ง Mandarin Oriental นี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องโรงแรม รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาวที่มีงานบริการที่เหนือระดับอยู่แล้ว

Location

        ที่ตั้งของโครงการ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok อยู่บนถนนเจริญนคร ซึ่งแปลงที่ดินของโครงการนับว่าอยู่ในตำแหน่งที่สวยมากทีเดียว โดยเมื่อมองข้ามฝั่งแม่น้ำไปจะเป็นวิว Cityscape ของตัวเมืองกรุงเทพฯ ที่กว้างมาก และยังมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งฝั่งสะพานตากสินและฝั่งสะพานพระพุทธยอดฟ้า


วิวจากระเบียงห้องของ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok จะหันรับวิวเมืองฝั่งสาทรและแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทุกห้อง

วิวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนฝั่งสะพานตากสิน

        สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการนับว่ามีตอบสนองลูกค้าไลฟ์สไตล์ไฮเอนด์ได้ครบถ้วน เช่น ศูนย์การค้าไอคอนสยามที่มีทั้งร้านแบรนด์เนมระดับโลก ภัตตาคารหรูระดับ Michelin Star ข้างๆ นอกจากนี้โซนถนนเจริญนคร ถนนเจริญกรุง สาทรก็มีโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งมีทั้ง Rooftop Bar และภัตตาคารหรูเปิดให้บริการ เช่น ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับโครงการก็มีโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล (Mandarin Oriental) ซึ่งเจ้าของห้องก็สามารถไปใช้บริการที่นี่ได้เช่นกัน ด้วยสิทธิพิเศษเพิ่มเติมเฉพาะเจ้าของห้องโครงการนี้อีกด้วย 

ศูนย์การค้าไอคอนสยาม

        สำหรับเรื่องการเดินทางทำเลนี้จะสามารถเดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้า ซึ่งจะมี BTS สถานีกรุงธนบุรี และยังมีรถไฟฟ้าสายสีทองที่ผ่านหน้าโครงการเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า BTS ได้ในอนาคต ส่วนการใช้รถยนต์ส่วนก็สามารถขับรถข้ามสะพานตากสินเพื่อเข้าเมืองโซนสาทรได้สะดวก หรือถ้าวันไหนไม่ต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัว ทางโครงการจะมี Shuttle Boat ให้บริการระหว่างท่าเรือของโครงการไปยังท่าเรือสาทรด้วย


Project

        The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok เป็นคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury สูง 52 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 4.9 ไร่ และด้วยคอนโดมิเนียมระดับเซ็กเมนต์นี้ทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับ Elite ภายในโครงการจึงมีเพียง 146 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งในแต่ละ Floor ก็จะมีจำนวนยูนิตสูงสุดเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น
        ทางเข้าหลักของโครงการจะใช้ประตูทางเข้าหลักฝั่งถนนเจริญนคร ซึ่งเจ้าของห้องจะสามารถขับรถเข้ามายังจุด Drop Off ได้โดยตรง จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ของ Mandarin ให้บริการ Valet Parking นำรถเข้าจอดในที่จอดรถอัตโนมัติให้ ซึ่งเจ้าของห้องก็สามารถนัดเวลานำรถลงจากที่จอดมาจอดรอที่จุด Drop Off ล่วงหน้าได้ ทั้งผ่านทาง Application สำหรับลูกบ้านและใช้วิธีนัดหมายกับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ

ทางเข้าโครงการ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok ฝั่งถนนเจริญนครตกแต่ง Landscape ไว้อย่างสวยสมระดับราคา โดยอยู่ติดกับทางเข้าศูนย์การค้าไอคอนสยาม

ถนนทางเข้าโครงการแบ่งช่องทางไว้ 2 ฝั่งสำหรับเข้าออก ตลอดทางจะปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่น

ที่จอดรถอัตโนมัติของโครงการจะแบ่งช่องไว้สำหรับจอดรถแต่ละประเภท ได้แก่ รถเก๋ง Sedan รถ SUV เป็นต้น

        ด้านหน้าตัวอาคารจะเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ที่ออกแบบได้สวยงาม เป็นทั้งส่วนที่ช่วยสร้างความสงบเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายในโครงการ โดยสามารถเดินเชื่อมต่อออกไปยังพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ โดยมีประตูกั้นสำหรับลูกบ้านของโครงการเท่านั้น ซึ่งภายในสวนนี้ออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อน เดินเล่น ผ่อนคลาย มีที่นั่งพักผ่อนเตรียมให้หลายจุด

        งานออกแบบสวนด้านหน้าโครงการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเลือกใช้พันธุ์ไม้เขตร้อนเพื่อดึงบรรยากาศความเป็นไทย ซึ่งโครงการเลือกจัดสวนไว้ด้านหน้าลักษณะนี้เพื่อทั้งเป็นที่พักผ่อน รับลมจากแม่น้ำเจ้าพระยา และเพื่อคั่นกลางระหว่างพื้นที่ภายนอกอาคาร สร้างความสงบเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ด้านใน
        เข้ามาภายในอาคารจะเป็นส่วนล็อบบี้ (Grand Residential Lobby) ที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของ Mandarin Oriental คอยให้บริการอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเราสามารถขอนัดหมายใช้บริการต่างๆ เช่น ฝากสัมภาระ หรือใช้ Service อื่นๆ ที่โครงการมีให้ 

ทางเข้าสู่ตัวอาคารทำออกมาหรูหรา ใช้ผนังกระจกเต็มผนังช่วยให้มองผ่านเข้าด้านในอาคารเห็นความสูงโปร่งของ Grand Residential Lobby ได้ ด้านในมีเคาน์เตอร์ต้อนรับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของ Mandarin Oriental ประจำให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

มุม Waiting Area จัดไว้ด้านหน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ เจ้าของห้องสามารถนั่งรอระหว่างที่ทีมงานกำลังให้บริการ เช่น นำรถขึ้นจอดในที่จอดอัตโนมัติ หรือระหว่างรอให้นำรถยนต์ลงมาเทียบที่จุด Drop Off

Grand Residential Lobby ออกแบบให้ฝ้าเพดานสูง ใช้ผนังกระจกที่ช่วยให้สายตามองผ่านไปด้านนอกอาคาร และการออกแบบพื้นที่ภายในที่เว้นระยะช่องทางเดิน ทำให้ภายในล็อบบี้ดูโปร่งโล่งหรูหราเป็นพิเศษ 

ภายในมีมุมสำหรับนั่งพักรับรองเตรียมไว้ให้หลายจุด เพื่อให้เจ้าของห้องรวมถึงแขกที่มาติดต่อสามารถนั่งพักได้อย่างเป็นส่วนตัว 

พื้นที่ส่วนต้อนรับชั้นล่างยังมี The Mandarin Gallery เมื่อเดินผ่าน Grand Residential Lobby มาทางขวามือ ซึ่งจัดเป็นมุมรับรองอีกจุด โดยออกแบบพื้นที่เป็นโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน โดยจะมีเครื่องดื่มให้บริการด้วย

อีกมุมที่จัดเตรียมไว้อย่างน่าสนใจคือ The Chao Phraya Lounge ซึ่งจะเป็นทั้งพื้นที่รับรอง พักผ่อน ต้อนรับแขก ซึ่งเจ้าของห้องสามารถขอให้ปิดประตูกั้นส่วนเพื่อจัดเป็น Meeting คุยธุระติดต่องาน หรือจัด Private Functions ได้อย่างเป็นส่วนตัวอีกด้วย

        ถัดมาทางด้านหลังจะเป็นโถงลิฟต์ซึ่งจะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 8 ตัว ซึ่งจะเป็น Private Lift ทั้งหมดโดยจะให้บริการแบ่งเป็น 4 คอลัมน์ เพื่อส่งผู้โดยสารไปยังหน้าโถงลิฟต์ส่วนตัวหน้าห้องพัก
        สำหรับ Facility ของโครงการจะจัดเอาไว้ 4 ชั้น คือตั้งแต่ชั้นที่ 1, 4, 5 และชั้นที่ 36 ครับ โดยชั้นที่ 4 นี้จะเป็น River Clubhouse ซึ่งเป็นชั้น Facility หลักๆ ของโครงการ โดยเมื่อเดินออกจากโถง Private Lift แล้วก็จะเข้ามายัง Garden Loft ซึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารพร้อมครัวเปิด ที่สามารถเปิดออกไปยังส่วน Outdoor ซึ่งเป็น BBQ Pool Side Terrace ด้านนอกได้ ถัดจาก Garden Loft จะเป็น Game Room ที่ออกแบบให้สามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งตรงส่วนนี้จะมีประตูเปิดออกไปยัง River Terrace ใช้พักผ่อน อาบแดดริมสระว่ายน้ำ ส่วนด้านข้างๆ จะเป็นสนามเด็กเล่นและสระว่ายน้ำของเด็ก

ภายในชั้นที่ 4 จะมี Garden Loft ซึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร มีที่นั่งให้เลือกใช้ได้หลายมุมที่ออกแบบให้หันหลบสายตากัน เพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนตัวสำหรับการนั่งพักผ่อนทานอาหาร

ภายในพื้นที่ส่วนนี้จะมีครัวเปิดสำหรับให้บริการเตรียมอาหาร

ถ้าอยากจัดงานเลี้ยงเล็กๆ นั่งทานอาหารกันอย่างเป็นส่วนตัวก็จะมีพื้นที่อีกส่วนที่วางโต๊ะกลมขนาดใหญ่สำหรับทานอาหารพร้อมกันได้หลายคน โดยสามารถปิดประตูกั้นส่วนเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งานให้ไม่รบกวนกันได้

จาก Garden Loft จะมีประตูเปิดออกไปพื้นที่ด้านนอกซึ่งเป็น BBQ Terrace ที่จัดไว้เป็นสนามหญ้าเปิดโล่งที่สามารถใช้จัดปาร์ตี้ด้านนอกได้

ในพื้นที่ BBQ Terrace จะกว้างขวางมีมุมให้เลือกใช้งานได้หลายจุด

ด้านหน้า BBQ Pool Side มีสระบัวทรงตัว L ที่เวลามองผ่านสระบัวนี้ไปจะได้วิวที่ต่อเนื่องกับวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยา

ด้านใน Main Facility ยังมีส่วนใช้งานอื่นๆ อีก เช่น Game Room ที่จะมีโต๊ะพูลและ Table Football เตรียมไว้สำหรับใช้เล่นพักผ่อนคลายเครียดกับเพื่อนฝูง

ถัดจาก Game Room มาจะเป็น Children Playground ที่มีทั้งส่วน Indoor และ Outdoor เพื่อให้เด็กๆ สามารถเล่นสนุกได้หลายรูปแบบ 

ภายในมุมนี้จะมีพื้นที่เล่นอยู่หลายอย่างทีเดียว ทั้งไต่ผาจำลอง ไต่เชือก และหมอนสตูลที่เลือกใช้เป็นทรงคล้ายก้อนหินขนาดใหญ่

Children Playground ส่วน Outdoor จะมีเครื่องเล่นและสระสำหรับเด็ก

มาต่อที่ส่วน Outdoor Facility กันครับ เริ่มที่สระว่ายน้ำของโครงการซึ่งจะเป็น Infinity Edge Pool และมี Jacuzzi ที่ออกแบบให้วิวภายในสระว่ายน้ำเชื่อมต่อกับ Cityscape และมี Sunbed สำหรับนั่งพักผ่อนอาบแดดได้

         ชั้นที่ 5 ของอาคารจัดมาเป็นห้องฟิตเนส และ Private Studio ใช้สำหรับออกกำลังกายได้อย่างเป็นส่วนตัว โดยเจ้าของห้องสามารถใช้บริการ Fitness Trainer และ Yoga Instructor มาให้บริการส่วนตัวได้ ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Golf Simulator & Virtual Game Room


ห้องฟิตเนสของโครงการจะเตรียมอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายเอาไว้หลายชนิดทีเดียว 

มองผ่านหน้าต่างของฟิตเนสลงไปก็จะเห็นไปยังส่วน Game Room และ Garden Loft 

มุมอื่นๆ ภายในห้องฟิตเนสที่เตรียมไว้สำหรับออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ

ถัดจากห้องฟิตเนสมาจะเป็น Private Studio สำหรับใช้ออกกำลังกายแบบเป็นส่วนตัว รวมถึงใช้บริการ Yoga Instructor มาให้บริการได้ 

มุมพักผ่อนอีกแห่งจะเป็น Golf Simulator ที่สามารถเลือกเปลี่ยนวิวสนามด้านหลังได้หลายแบบ

        ส่วนกลางอีกชั้นจะอยู่ที่ชั้น 36 “Sky Pavilion” ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดของชั้นนี้สามารถใช้จัดงานแบบเป็นส่วนตัวได้ โดยจะออกแบบมาให้เป็นพื้นที่รับชมวิวกรุงเทพฯ ได้ในมุมกว้าง โดยถ้าเริ่มจากฝั่งซ้ายมือทางทิศเหนือจะเป็น The Oriental Salon ที่เป็นห้องจัดเลี้ยงอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีส่วน Service เป็นห้องครัวและลิฟต์ Service แยกอยู่ด้านหลัง ใช้เพื่อเตรียมอาหาร ลำเลียงของต่างๆ 

เริ่มจากฝั่งซ้ายมือสุดกันก่อนครับ The Oriental Salon ตรงนี้จะเป็นเลานจ์ของโครงการที่จัดให้มีมุมใช้งานหลายรูปแบบ เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งนั่งพักผ่อน พูดคุยธุรกิจ

ที่นั่งโซฟาริมหน้าต่างจุดนี้ออกแบบให้เป็นที่นั่งพักผ่อนพูดคุยพร้อมกันได้หลายคน ซึ่งมุมนี้จะได้วิวที่โปร่งโล่งมองผ่านออกไปเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ ได้อย่างสวยงาม

ภายใน The Oriental Salon จะมีครัวเปิดเพื่อรองรับการจัดเลี้ยง โดยจะมีประตูสำหรับเปิดไปยังส่วน Service ที่ออกแบบซ่อนไว้กับผนังเพื่อให้พื้นที่ในส่วนนี้ดูสวยงามเป็นเนื้อเดียวกัน

        ถัดมาก็จะเป็น The Library ซึ่งจะออกแบบพื้นที่ตรงจุดนี้ให้เป็นที่พื้นที่พักผ่อน อ่านหนังสือ นั่งทำงานชมวิวเมือง ที่จะมีประตูเปิดออกสู่ระเบียงเพื่อพักผ่อนรับลม ถัดมาก็จะเป็น Siam Salon ซึ่งเป็นห้องจัดงาน และสุดท้าย Lotus Business Suite ซึ่งจะเป็นห้องสำหรับจัดประชุม 

The Library เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถนั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ มีมุมให้เลือกนั่งได้หลายจุด ทั้งมุมอาร์มแชร์นั่งคู่กัน 2 คน หรือจะเป็นที่โต๊ะยาวที่วางหันออกสู่ด้านนอกอาคาร

Siam Salon เป็นพื้นที่สำหรับจัดงาน เช่น งานเลี้ยง หรือพูดคุยธุรกิจได้

Lotus Business Suite เป็นห้องประชุมขนาดเล็กที่รองรับการใช้งานได้ถึง 12 คน สามารถเลือกใช้ห้องนี้สำหรับประชุม คุยธุรกิจได้อีกแห่ง

ด้านข้าง Lotus Business Suite จะมีมุมสำหรับนั่งทำงาน โดยออกแบบให้มุมนี้อยู่ห่างจากส่วนใช้สอยอื่นๆ เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่มีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว

Product
        ยูนิตพักอาศัยของโครงการ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok จะมีทั้งหมด 146 ยูนิต และแต่ละ Floor ก็จะมีห้องพักสูงสุดเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย ซึ่งโครงการก็ออกแบบให้ผังชั้นเป็นแบบ Single Loaded Corridor โดยจัดห้องพักอาศัยทั้งหมดหันรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวเมืองทั้งหมด
        สำหรับห้องตัวอย่างจริงที่เราจะพาไปชมจะเป็นขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 222.21-228.88 ตารางเมตร โดยห้องนี้จะเป็นห้องที่อยู่ทางมุมฝั่งทิศเหนือ ลองตามมาดูห้องนี้กันเลยครับ
        การตกแต่งภายในห้องจะผสมผสานความร่วมสมัย (Contemporary) ความเป็นสมัยใหม่ (Modern) และความเป็นไทยเข้าไว้ด้วยกัน โดยงานตกแต่งต่างๆ จะเน้นความเรียบง่าย แต่สะท้อนถึงความหรูหรามีรสนิยมของเจ้าของห้อง รวมถึงการออกแบบ Space ภายในห้องที่สะท้อนรสนิยมที่หรูหราเหนือระดับได้เป็นอย่างดี

เริ่มจากโถงลิฟต์ส่วนตัว ก็จะมีลิฟต์โดยสารถึง 2 ตัว และจะมีประตูเปิดเข้าภายในห้อง ซึ่งประตูนี้จะสามารถเปิดกว้างสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใช้งานรถเข็นด้วย ซึ่งเมื่อเข้ามาด้านในห้องแล้วก็จะเป็น Foyer สำหรับเปลี่ยน-สวมรองเท้า

ภายในห้องจะมีทางเดินที่เชื่อมต่อจากห้องนอนทั้ง 3 ห้องไปยังส่วน Living Area ขนาดใหญ่ด้านใน

Living Area ของห้องนี้ออกแบบ Space ได้สวยงามมากครับ ส่วนใช้สอยต่างๆ จะวางอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งถึงกันโดยเว้นช่องทางเดินเพิ่มความเป็นสัดส่วนให้แต่ละพื้นที่

ห้องครัวจะเป็นครัวเปิดโดยติดตั้งชุดครัวไว้เต็มพื้นที่ผนัง และมีส่วนของ Island เพิ่มพื้นที่ใช้งานสำหรับเตรียมอาหารหรือวางอาหารเตรียมเสิร์ฟ

สำหรับส่วนรับประทานอาหารจะจัดให้อยู่อีกมุมของห้อง โดยมุมนี้จะสามารถมองผ่านออกไปยังวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้

ระหว่างส่วนห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะเว้นช่องสำหรับทางเดิน เพื่อแบ่งระหว่างพื้นที่ใช้งานทั้งสองส่วน

ห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุด ดังนั้นการจัดเฟอร์นิเจอร์ภายจึงสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดได้ตามสไตล์เจ้าของห้องมาใช้งานได้ โดยในห้องนี้จะมีการตกแต่งพิเศษจาก Joyce Wang โดย Headboard จะเป็นผ้าไหมจากแบรนด์วอลล์เปเปอร์ทำมือชื่อดังอย่างแบรนด์ Fromental ซึ่งเป็นแบรนด์ของชาวอังกฤษที่สนใจในการนำเอาศิลปะการปักผ้า ศิลปะชั้นสูงและละเอียดอ่อนของเมืองซูโจวมาผสมผสานกับการวาดมือ โดยตัว Headboard ในห้องนี้ปักลายดอกเหมยด้วยเส้นไหมหลากสีอย่างสวยงาม ซึ่งผู้อาศัยสามารถเลือกโทนสีของลายปักในแบบ Customized ได้ถึง 3 เฉดสีอีกด้วย 

การออกแบบห้อง Master Bedroom จะเน้นให้มีความโปร่งโล่ง สามารถมองผ่านออกไปยังวิวด้านนอกได้เกือบทุกจุด โดยตู้เสื้อผ้าข้างเตียงนอนจะเว้นช่องเอาไว้เพื่อเป็นผนังกระจกที่สามารถมองผ่านจากห้องน้ำออกไปยังวิวเมืองด้านนอกได้ 

โซฟาส่วนปลายเตียงถูกจัดให้เป็นทั้งพื้นที่นั่งพักผ่อน ดูโทรทัศน์ และสามารถมองผ่านประตูบานเลื่อนกระจกที่ใช้แบบ Full Height ออกไปยังวิวเมืองโซนสาทรได้ 

ระเบียงของห้องออกแบบให้ Connect ไปยัง Living Area ได้ โดยบริเวณระเบียงห้องตรงนี้ยังมีพื้นที่ด้านกว้างและยาวที่สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน จิบกาแฟชมวิวเมืองได้ 

อีกฝั่งของห้องมีทางเดินไปยังมุมตู้เสื้อผ้าและแต่งตัวที่อยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ซึ่งออกแบบให้สองส่วนนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องกันมากที่สุด และด้วยการออกแบบให้ส่วนนี้อยู่ห่างจากระเบียงห้องจึงเพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนตัวเวลาใช้งานได้ด้วย

ห้องน้ำของ Master Bedroom จะเป็นแบบ Four Fixture Bathroom โดยจะมีทั้งอ่างล้างมือที่แบ่งฝั่งแบบ His & Her อ่างอาบน้ำที่สั่งทำพิเศษ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นด้วยการแยกส่วน Shower Room และ Toilet ออกจากกัน นอกจากนี้ภายในห้องยังคำนึงถึงความโปร่งโล่ง สามารถมองผ่านช่องแสงด้านในสุดของห้องออกไปยังวิวฝั่งสะพานพระพุทธยอดฟ้าได้

เหนืออ่างล้างมือจะติดตู้เก็บของซึ่งปิดผิวหน้าบานเป็นกระจกเงาเพื่อเก็บของใช้ได้ต่างๆ ให้เป็นระเบียบ และที่ผนังกลางห้องจะเป็นช่องแสงช่วยให้ส่วนนี้มีความพิเศษ สามารถมองผ่านไปยังวิวเมืองฝั่งหน้าโครงการได้ 

Toilet และ Shower Room จะทำแยกไว้คนละส่วน เพื่อแบ่งส่วนใช้งานเปียก-แห้งออกจากกัน โดยใน Shower Room ก็จะมีทั้งชั้นวางของ ที่นั่งอาบน้ำ ชุดฝักบัว และ Rain Shower แบบติดจากฝ้าเพดาน

สำหรับห้องนอนที่ 2 ออกแบบให้อยู่ถัดจาก Master Bedroom โดยเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปจะมีทางเดินยาวผ่านไปยังส่วนเตียงนอน โดยผังภายในห้องนี้จะออกแบบให้ส่วนเตียงนอนอยู่ด้านในสุดของห้อง เพื่อเกิดความเป็นส่วนตัวและสงบในการพักผ่อน 

ห้องน้ำในตัวมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จัดมาครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างมือแบบแยกก๊อกน้ำร้อน-น้ำเย็น ตัวอ่างก็เป็นแบบสั่งทำพิเศษ บนผนังมีตู้เป็นฟังก์ชันเก็บของที่ปิดผิวด้วยกระจกเงา และพื้นที่อยู่ต่อเนื่องกันเป็น Shower Room ที่กั้นส่วนแยกพื้นที่เปียก-แห้งไว้อย่างเรียบร้อย 

พื้นที่ด้านข้าง Shower Room จะเป็นโถสุขภัณฑ์ ซึ่งโครงการจะใช้ Washlet ของ Toto ส่วนผนังด้านหลังจะเป็นช่อง Service สำหรับดูแลรักษางานระบบ

พื้นที่เตียงนอนที่อยู่ด้านในสุดของห้องจึงมีความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น เพิ่มความสงบพักผ่อนได้เต็มที่ โดยพื้นที่ตรงส่วนนี้กว้างขวางทีเดียว สามารถเลือกจัดเฟอร์นิเจอร์ตามสไตล์ที่ชอบได้ง่าย

สำหรับห้องนอนที่ 3 จะอยู่ไกลจาก Living Area มากที่สุด แต่ก็จะได้ความสงบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งภายในห้องนี้จัดพื้นที่ใช้สอยในห้องคล้ายคลึงกับห้องนอนในโรงแรมหรู

พื้นที่ภายในห้องมีความโปร่งโล่งอย่างดี โดยจัดให้มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งไว้ที่ผนังอีกฝั่งด้าน

สำหรับห้องน้ำก็ยังเน้นความโปร่งโล่งที่สามารถมองทะลุผ่านไปยังด้านนอกได้ โดยจัดให้ Shower Room ไว้ด้านในสุดติดกับผนังกระจกเพื่อใช้อาบน้ำได้แบบ Sexy Bathroom

Price
        โครงการ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่ โดยผู้ที่สนใจสามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าชมโครงการได้แล้ว สำหรับราคาต่อตารางเมตรจะเฉลี่ยอยู่ที่ 550,000 บาทต่อตารางเมตร แต่สิ่งที่ลูกค้าจะได้นอกจากนี้คือเรื่องของ Standard Service ที่บริหารโดยแมนดาริน โอเรียนเต็ล ไม่ว่าจะเป็น Valet Parking นำรถเข้าไปจอดในที่จอดรถอัตโนมัติให้ รวมถึงบริการนำรถจากที่จอดมารอตามเวลาที่เจ้าของรถได้นัดไว้ล่วงหน้า, Doorman, Concierge Service และการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถเรียกใช้บริการต่างๆ เพิ่มเติมในส่วนของ A La Carte Service เช่น ทำความสะอาดห้อง ผู้ช่วยส่วนตัว เชฟจากโรงแรมมาทำอาหารมื้อพิเศษให้ถึงห้องพัก บริการจัดเลี้ยงส่วนตัว ซึ่งเป็นบริการพิเศษสำหรับเจ้าของห้องพักสุดหรูที่นี่เท่านั้น
        รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้แก่ Property Management by MOHG เข้าเป็นสมาชิกของ Residences Elite Programme ของแมนดารินที่จะได้รับสิทธิพิเศษจากโรงแรมและรีสอร์ทในเครือแมนดารินได้ทั่วโลก รวมถึงได้สิทธิประโยชน์ระดับ VIP จาก Shop และร้านอาหารต่างๆ ภายในโครงการไอคอนสยาม

Conclusion
        สำหรับโครงการ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok นี้ต้องบอกเลยว่ามีความสมบูรณ์แบบในหลายๆ ด้านทีเดียว ทั้งเรื่องที่ตั้งโครงการที่มีความสะดวกสบายรายล้อม แปลงที่ดินโครงการที่อยู่ในตำแหน่งที่สวยงาม รับวิวเมืองสวยๆ และวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทั้งสองฝั่ง การออกแบบโครงการที่สะท้อนความหรูหราที่ลงรายละเอียดกับทุกๆ จุดเป็นอย่างดี การจัด Space ภายในส่วนต่างๆ ที่เน้นโปร่งโล่ง รวมถึงงานตกแต่งภายในที่ทำออกมาแล้วสะท้อนถึงความเหนือระดับของโครงการได้จริงๆ
        แต่เรื่องที่พิเศษกว่าก็คือเรื่องบริการที่เหนือระดับที่นับว่าเป็นจุดขายเฉพาะตัวที่โครงการอื่นมอบให้ไม่ได้ครับ และเป็นสิ่งที่ Mandarin Oriental สั่งสมประสบการณ์และพัฒนาในจุดนี้มาอย่างยาวนาน จนเป็นที่ยอมรับจากบุคคลระดับโลกที่เคยได้ใช้บริการ ซึ่งวันนี้เราก็มีโอกาสได้เห็นและมีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของแล้วที่โครงการ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok นี้ล่ะครับ

สำหรับท่านที่สนใจเข้าชมโครงการสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
https://www.moresidencesbangkok.com 
และติดต่อฝ่ายขาย โทรศัพท์ +66 (0) 2 012 4555
อีเมล moresidencesbkk@cbre.co.th

อ่านพรีวิวโครงการอื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/reviews

ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage

หรือชมวิดีโออื่นๆ คลิกที่นี่  www.home.co.th/tv  ,www.youtube.com/tvhomebuyer

— Share It —

• Facebook
• Twitter
• Google+
• Linkedin
• Pin It

About thailand

Hi, My Name is Hafeez. I am a webdesigner, blogspot developer and UI designer. I am a certified Themeforest top contributor and popular at JavaScript engineers. We have a team of professinal programmers, developers work together and make unique blogger templates.