รับขายฝาก-ฝากขายทรัพย์ประเภทที่ดินและบ้าน
กลุ่มสาธารณะ · สมาชิก 6.3ล้านคน
เข้าร่วมกลุ่ม

AGZ เว็บลงโฆษณา adgroupszone promothkhosna อสังหาริมทรัพย์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ตลาดอสังหา

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Tag: ,

MUNIQ สุขุมวิท 23 - ผสานศิลปะเพื่อที่สุดของรสนิยมการใช้ชีวิต สู่ที่สุดของการอยู่อาศัยใจกลางมหานคร


 

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมผู้มีฐานะดีหลายๆคน ถึงชอบเสพงานศิลปะกัน บางคนยอมซื้อภาพเขียนหรืองานประติมากรรมในราคาเป็น 10 ล้านโดยไม่รู้สึกเสียดายเงินเลย บางคนถึงขนาดลงทุนทำ art gallery ส่วนตัวไว้ที่บ้านเลยก็มี

 

นั่นอาจเป็นเพราะว่า ศิลปะคือสิ่งที่สื่อถึงรสนิยมและจิตวิญญาณของตัวเอง และหากนำหลักการทางศิลปะมาผสมผสานเข้ากับการตกแต่งที่อยู่อาศัยแล้ว ยังทำให้มีพลังบวกและความคิดสร้างสรรค์ในการใช้ชีวิต นอกจากนี้ยังช่วยจรรโลงใจให้สมาชิกในครอบครัวอยู่อย่างมีความสุข

 

แล้วหากมีคอนโดใจกลางเมืองที่ใช้แนวคิด The Artistic Touch In Every Details Of Life โดยรังสรรค์ทุกตารางเมตรด้วย ศิลปะและสไตล์การตกแต่งที่จะส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยได้เป็นตัวของตัวเอง คิดว่าจะน่าสนใจแค่ไหน 

 

MUNIQ Sukhumvit 23 (มิวนีค สุขุมวิท 23) "ผสานศิลปะเพื่อที่สุดของรสนิยมการใช้ชีวิต สู่ที่สุดของการอยู่อาศัยใจกลางมหานคร"

 

 

ด้วยทำเลที่ใจกลางเมืองสุดๆ โดยตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 23 สะดวกสบายตั้งแต่คนที่เลือกขับรถไปเอง เพราะอยู่ฝั่งเดียวกับย่านสำคัญต่างๆ ทำให้ในซอยนี้ทะลุออกไปได้หลายเส้นทางมาก ไม่ว่าจะเป็น ถนนเส้นหลักสุขุมวิท ถนนอโศก เชื่อมกับซอยสุขุมวิท21 ไปพระราม4 และรัชดาภิเษก 

 

นอกจากนี้ยังวิ่ง ถนนเพชรบุรี ที่ออกไปเชื่อมกับย่านพญาไท และย่านพัฒนาการได้อีกด้วย หรือถ้าอยากออกไปทองหล่อ เอกมัย สามารถเข้าซอยสวัสดี และซอยพร้อมจิต เพื่อหลีกเลี่ยงถนนหลักที่รถติด แถมยังไม่ไกลจากทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนศรีรัช

 

แต่ถ้าวันไหนเร่งด่วนจริงๆ หรือต้องออกในช่วงเวลาไพร์มไทม์ ขนส่งสาธารณะคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ที่สถานีอโศก เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT สถานีสุขุมวิท โดย BTS ห่างจากโครงการเพียง 200 เมตร และห่างจากแอร์พอร์ตลิงค์ ARL สถานีมักกะสัน 1.5 กิโลเมตร ยังไม่รวมถึงวินมอเตอร์ไซค์ รถแท็กซี่ และเรียกผ่านแอปพลิเคชันซึ่งเป็นจุดที่เรียกได้ง่ายมาก

 

รายล้อมไปด้วยความทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย ไล่เรียงตั้งแต่ในซอยที่มีร้านอาหารครบทุกสัญชาติ ไหนจะร้านขนม คาเฟ่ ร้านกาแฟก็ไม่พลาดที่จะมาตั้งอยู่ในซอยนี้ ขณะที่ห้างสรรพสินค้าใกล้สุดต้องยกให้ Terminal 21 และกระจายตัวอยู่โดยรอบทั้ง EmQuartier, EmPorium, Central Embassy, Korean Town, Central ชิดลม, Central World และ Siam Paragon 

 

เท่านั้นไม่พอเพราะอย่างที่รู้กันดีว่าทำเลอโศก-สุขุมวิท คือย่าน CBD แหล่งรวมสำนักงานออฟฟิศและบริษัทชั้นแนวหน้าที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Interchange Tower, Sino Thai Tower, Sermmit Tower, Exchange Tower,  GMM Tower, Singha Complex และ  Bhiraj Tower เป็นต้น

 

อีกทั้งยังใกล้สถานศึกษาทั้ง มศว รร.สาธิต มศว รร.นานาชาติ NIST รร.นานาชาติ Anglo Singapore และ รร.นานาชาติ Australian-ISB รวมไปถึงไม่ไกลจาก รพ.สมิติเวช รพ.บำรุงราษฎร์ รพ.คามิลเลียน ทองหล่อ และรพ.จักษุ รัตนิน นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะสีเขียว ให้คนเมืองได้ออกกำลังกายและพักผ่อนกันอย่าง สวนเบญจสิริและสวนเบญจกิติ

 

แม้ภายนอกดูคึกคักตามวิถีความเป็นเมืองใหญ่ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ โครงการ "MUNIQ สุขุมวิท 23" จะได้ความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวเข้ามาแทนที่ โดยออกแบบภายใต้แนวคิด “LIVE AS ART” ใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ ให้ทุกการออกแบบตั้งแต่ภายนอกถึงภายในมีความอาร์ตอยู่ในตัว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Mondrian Art

 

คอนโดจึงออกมาในสไตล์ Luxury โดยเลือกใช้วัสดุพรีเมียมอย่างหินอ่อนและขอบสีทองเพื่อความหรูหรา ขณะเดียวกันก็ต้องการให้เข้าถึงง่าย จึงผสมผสานกับสไตล์ Modern เน้นการใช้สีอย่างสีขาว สีดำ และกระจกบานใหญ่ ทำให้ Mood & Tone ทั้งหมดออกมาสวยงามลงตัว 

 

โดยเป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 201 ยูนิต ถือว่ามีลูกบ้านน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนชั้น นั่นแสดงให้เห็นว่า ต่อชั้นมีจำนวนยูนิตสูงสุดแค่ 10 ห้อง ลูกบ้านทุกคนจึงสามารถใช้ชีวิตส่วนตัวได้แบบเอ็กซ์คูลซีฟ

 

สำหรับ Facility กับคอนโดระดับ Luxury แล้วนั้น การันตีได้เลยว่าต้องประทับใจใครหลายคน จะมีอะไรบ้าง เดี๋ยวเราค่อยๆ อธิบายไปทีละชั้น เริ่มตั้งแต่ที่จอดรถ แบ่งเป็นที่จอดรถปกติทั่วไป 34 คัน และที่จอดรถระบบ Automatic Parking อีก 132 คัน รวม 166 คัน คิดเป็น 82% 

 

ต่อด้วย Ground Floor จะพบสวน Secret Garden อยู่หน้าทางเข้าโครงการ พื้นที่สีเขียวล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่และน้ำตกแบบขั้นบันได เพื่อให้เกิดความร่มรื่นและได้อากาศที่เย็นสบาย พร้อมจัดพื้นที่ไว้ให้สำหรับนั่งเล่นหรือนั่งพักผ่อน

 

ถัดไปจะเป็นส่วนของ Lobby ที่อยู่ภายในอาคาร มีความโปร่งโล่งและมีขนาดใหญ่ ด้วยตัวพื้นที่และความสูง รวมถึงลูกเล่นที่ใช้กระจกเงาในการตกแต่ง โดยแบ่งมุมรับแขกหรือให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่นไว้หลายที่นั่ง

 

แต่ที่สะดุดตาต้องยกให้แชนเดอเรียที่อยู่ตรง Mail Box ซึ่งจะเห็นได้เฉพาะโครงการระดับ Luxury มีความแปลกตาดูใหญ่หรูหราแต่ก็ดูเท่ไม่เบาทำให้ตรงนี้ดูสว่างไสว แม้จะเป็นโซนที่อาจไม่ได้ใช้ทุกวันแต่ก็ยังใส่ใจในรายละเอียด

 

ขึ้นลิฟต์พุ่งตรงไปต่อกันที่ ชั้น 35 สระว่ายน้ำระบบเกลือ มองเห็นวิวเมืองได้ชัดเจน ขนาด 16x6.4 เมตร ลึก 1.20 เมตร และเพื่อความปลอดภัยจึงแบ่ง สระเด็ก ลึก 0.6 เมตร ขนาดประมาณ 2 x 6.4 เมตร แยกออกจากสระใหญ่ แต่ก็ยังอยู่ในบริเวณเดียวกันเพื่อให้ดูแลได้ทั่วถึง

 

แต่ถ้าไม่อยากว่ายแบบจริงจังต้อง Jacuzzi ที่จัดให้ตรง Outdoor ไว้แช่น้ำผ่อนคลายจากอาการเหนื่อยล้า

 

มุมนี้มีพื้นที่ชั้นลอยตัวพื้นกรุกระจกใสมองเห็นสระว่ายน้ำด้านล่าง ซึ่งจัด Day Bed เอาไว้นอนเล่นนั่งรอคนในครอบครัวว่ายน้ำ 

 

สุดท้ายที่ ชั้น 36 จุดรวมส่วนกลางต่างๆ อย่าง Fitness กรุด้วยกระจกใสให้มองเห็นวิวภายนอกได้แบบ 270 องศา พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน ใกล้ๆ กันคือ Terrace Garden อีกหนึ่งมุมนั่งชมวิว 

 

ต่อด้วย Social Lounge อีกหนึ่งมุมไว้อยากนั่งเล่นหรือนั่งทำงานก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งชั้นนี้มี Theater Room รองรับคนได้ประมาณหนึ่ง ไว้อยากเปลี่ยนบรรยากาศหรืออยากนัดเพื่อนๆ มาดูหนังร่วมกัน

 

ปิดท้ายที่ชั้น Rooftop Panorama Lounge เหมาะแก่บรรยากาศยามเย็น ขึ้นมานั่งรับลมชมวิวเมืองที่มองเห็นแบบสุดสายตาเลยทีเดียว ยังไม่หมดที่นี่ยังมี Pocket Garden สวนหย่อมสีเขียวเพื่อรองรับลูกบ้านได้มากขึ้น โดยจะมีที่ชั้น 22, 24, 26, 28, 30, 32 และชั้น 34 ที่ออกแบบเป็นขั้นบันไดไล่สเต็ปขึ้นไป

 

มาถึงใจความสำคัญอย่างห้องพักอาศัย ซึ่งทางโครงการ ขายแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน โดยพื้นจะเป็น Engineering Wood 12 มม. ผนังติด Wallpaper สีขาว และความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร

 

โดยมีห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 2 แบบ ดังนี้

1 Bedroom ขนาด 34.74 – 43.46 ตารางเมตร
2 Bedroom ขนาด 54.68 – 99.27 ตารางเมตร

 

แต่ยังมีห้องพิเศษ The Collection ที่ชั้น 28-34 โดยมีห้อง Simplex, Duplex และ Triplex ขนาด 83.22 – 191.11 ตารางเมตร

 

โดยรอบนี้เราจะพาไปดูแบบ 2 ห้องนอน แต่มีให้เลือก 3 ฟังก์ชัน เพื่อตอบโจทย์แต่ละสไตล์ ไปดูกันเลยกับห้องแรก 2 ►Bedroom 2 Bath ขนาด 63.42 ตารางเมตร ซึ่ง Type นี้เป็นห้องหน้ากว้างทำให้ตกแต่งห้องได้ง่ายและได้ความเป็นสัดส่วนของแต่ละห้อง ซึ่งพอเปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ว่างทางขวามือ ให้บิวท์อินตู้รองเท้าหรือตู้เก็บของเพิ่มเติม จะได้เป็นระเบียบเรียบร้อยและป้องกันสิ่งสกปรกจากรองเท้า 

 

ห้องครัว ทางซ้ายมือโดยได้เป็นครัวเปิด โครงการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U ขนาดใหญ่มาให้เรียบร้อย Top เคาน์เตอร์ครัวทำจากหิน Quartz ได้ความแข็งแรงคงทน ส่วน Backsplash เป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนสีขาวเพิ่มความหรูหรา แต่เรื่องการทำความสะอาดไม่ต้องห่วงเช็ดง่ายไม่ทิ้งคราบสกปรก พร้อมกับบิวท์อินตู้เก็บของด้านบนมาให้แล้ว

 

เครื่องใช้ไฟฟ้าทางโครงการก็เตรียมมาให้ครบครัน ได้แก่ Hob & Hood เตาไฟฟ้า 4 หัว ไมโครเวฟ รวมถึงตู้เย็น ทั้งหมดจากแบรนด์ Gorenje ซึ่งบิวท์ให้กลมกลืนไปกับเคาน์เตอร์เพื่อความสวยงาม 

 

ถัดมาเป็น ห้องนั่งเล่น ฝั่งหนึ่งไว้วางทีวี ซึ่งแนะนำว่าทำติดผนังเหมือนห้องตัวอย่างก็จะเป็นการประหยัดพื้นที่ และบิวท์ชั้นวางของทั้งบนและล่างเพิ่มเติมก็ดูดีทีเดียว 

 

อีกฝั่งสามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง และติดกันมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับวางโต๊ะกินข้าว แต่ถ้าเลือกโต๊ะกินข้าวและเก้าอี้เล็กกว่านี้ หรือดันชิดผนังก็จะมีสเปซมากยิ่งขึ้น แต่จะเลือกแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบเลย 

 

ตรงห้องนี้มี ระเบียง เชื่อมออกไปด้านนอก ทำให้รับลมเย็นและแสงธรรมชาติเข้าห้องได้มาก เพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่งสบาย

 

เดินเข้ามาอีกนิดพบกับ ห้องน้ำ ขนาดกว้างขวางผนังและพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนสีขาวดูสะอาดตา ส่วนตัวชอบอ่างล้างหน้าฝังเคาน์เตอร์แบบนี้ เพราะจะมีพื้นที่ให้วางของใช้ได้เยอะมาก และด้านล่างยังมีตู้ให้ใส่ของ พร้อมกระจกบานใหญ่เต็มบาน

 

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของแบรนด์ Duravit และ Geberit ได้ก๊อกน้ำและฝักบัวแบรนด์ Kohle และได้เครื่องทำน้ำร้อนแบรนด์ Stiebel Eltron อีกทั้งยังติดตั้งกระจกนิรภัยแยกการใช้งานมาให้พร้อมสรรพ

 

ฝั่งตรงข้ามเป็น ห้องนอนเล็ก ได้ตามมาตรฐานสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต ก็ยังเหลือพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้า ซึ่งโครงการบิวท์มาให้ตามที่เห็นในภาพ เก็บเสื้อผ้าได้ประมาณหนึ่งเลย

 

และห้องนี้พิเศษตรงที่นอกจากได้หน้าต่างแบบบานกระทุ้งแล้ว ยังได้กระจกบานใหญ่สูงสุดเพดาน เพื่อให้แสงเข้ามาได้มากช่วยให้ห้องดูกว้างกว่าเดิม

 

ด้านในสุดของห้องคือ Master Bedroom หน้าต่างและกระจกสุดเพดาน เรียกได้ว่าทำมาให้แทบจะรอบทิศทาง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของผู้ซื้อ เพราะจะทำให้ห้องนอนไม่อึดอัดและมองเห็นวิวได้จากภายในห้องนี้ โดยพื้นที่พักผ่อนจะอยู่ด้านขวามือวางเตียง 6 ฟุตได้สบาย

 

มีช่องว่างให้วางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง ที่อยู่ใกล้หน้าต่างทำให้แต่งหน้าได้ง่าย สาวๆ น่าจะชอบไม่ต้องติดไฟเพิ่มก็ยังได้

 

ส่วนพื้นที่ Walk-in Closet จะอยู่ซ้ายมือของทางเข้าห้อง ทางโครงการบิวท์ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่หลายบานเต็มพื้นที่ รับรองว่าจุเสื้อผ้าสำหรับสองคนได้แบบเหลือเฟือ

 

เชื่อมต่อไปยัง ห้องน้ำ พื้นที่ยิ่งใหญ่อลังการ สำหรับวัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำข้างนอก เพิ่มเติมเข้ามาคืออ่างอาบน้ำแบรนด์ Kasch ได้หน้าต่างบานกระทุ้งและช่องแสงบานใหญ่ เพื่อให้ห้องน้ำไม่อับชื้น 

 

อีกห้องหนึ่งเป็น 2 Bedroom 2 Bath ขนาด 69.69 ตารางเมตร ขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องแรก เปิดเข้ามาจะยังไม่เห็นห้องด้านใน โดยจะพบ Foyer Area ขนาดพอประมาณ ประตูบานขวามือของตู้ไว้เก็บรองเท้า ส่วนทางซ้ายมือคือตู้เย็น ติดกันไว้วางเครื่องซักผ้า ถ้าใครมีรองเท้าเยอะแนะนำบิวท์ตู้เพิ่มตรงด้านข้างประตู

 

ซ้ายมือเป็น Common Area ขนาดใหญ่ ที่รวมห้องครัวกับห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน โดยจะได้ ห้องครัว แบบเปิดและเคาน์เตอร์รูปตัว I บิวท์ยาวเต็มผนัง รวมถึงตู้เก็บของด้านบน ส่วนรูปแบบและวัสดุที่ใช้เหมือนกันกับห้องแรก

 

เชื่อมกันเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่งได้แบบชิลๆ แต่ก็ยังมีพื้นที่เดินได้แบบไม่รู้สึกว่าเกะกะขวางทาง จะโต๊ะกลมโต๊ะเหลี่ยมก็ได้หมด

 

ติดกันเป็น ห้องนั่งเล่น สเปซกว้างขวาง ให้สามารถออกไอเดียได้เต็มที่ อยากจะให้ทีวีติดผนังหรือซื้อชั้นมาวางทีวีแบบห้องตัวอย่าง ก็ยังมีพื้นที่เหลือๆ ให้วางโต๊ะกลางได้อีกต่างหาก

 

ฝั่งโซฟาเลือกโซฟาตัวใหญ่ขนาด 3 ที่นั่ง หรือโซฟาแบบตัว L ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยระยะห่างจากโซฟาทำให้เลือกติดทีวีขนาด 60 นิ้ว ก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

 

เพิ่มความโปร่งให้แก่ห้องนี้ ด้วยแสงธรรมชาติจากทางระเบียง มีขนาดกว้างให้วางเก้าอี้มานั่งชมวิวรับลมข้างนอก หรือปลูกต้นไม้เพื่อไม่ให้พื้นที่สูญเปล่า

 

ห้องน้ำ ยังรักษาขนาดได้มาตรฐาน สุขภัณฑ์ครบถ้วน และกั้นกระจกนิรภัยแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง

 

ตรงข้ามกันเป็น ห้องนอนเล็ก เพื่อให้ออกมาใช้งานห้องน้ำได้สะดวก โดยมีขนาดใหญ่ให้วางเตียง 5 ฟุต แต่ถ้าคิดว่า 3.5 ฟุต ก็เพียงพอจะทำให้เหลือสเปซว่างให้วางอย่างอื่นได้มากขึ้น 

 

ยังคงบิวท์อินตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนเดิมได้ถึง 3 หน้าบาน เพื่อให้เก็บเครื่องนอนและเสื้อผ้าได้หลายสิบตัว ส่วนอีกฝั่งคราวนี้ได้หน้าต่างมาเต็มผนังสุดเพดานเลยทีเดียว

 

ปิดท้ายด้วย Master Bedroom จะยังไม่เห็นส่วนของการพักผ่อนเพราะจะเจอกับ ห้องน้ำ เรื่องขนาดนี่ไม่ต้องพูดถึงสมกับที่อยู่ในห้องนอนใหญ่ ได้ทุกอย่างไม่ต่างจาก Master Bedroom ห้องแรก และยังได้หน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทไม่ต้องมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

 

พอเดินเข้ามาอีกนิดปะทะสายตาด้วยกระจกที่ถูกแทนที่ด้วยผนังฝั่งหนึ่งตรงข้ามกับเตียงนอน และเป็นแบบ Bay Window ทำให้ได้มุมมองการชมวิวทิวทัศน์ที่แตกต่าง ไม่ต้องติดทีวีให้บดบังวิวหรืออยากติดทางโครงก็เดินไฟไว้ให้แล้ว

 

สำหรับเตียงนอนวาง 5 ฟุต หรือ 6 ฟุตก็ได้ เพราะยังไงก็ยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง ส่วนตู้เสื้อผ้าก็บิวท์อินสุดเพดานมาให้เรียบร้อย ด้านข้างตู้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าทางโครงการจะบิวท์โต๊ะเครื่องแป้งมาให้ แนะนำให้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ดูอีกทีหนึ่ง

 

สุดท้ายและท้ายสุดที่ห้อง ►2 Bedroom 2 Bath ขนาด 86.24 ตารางเมตร Type ขนาดใหญ่สุดจากทั้งหมดที่พาไปดู ซึ่งการตกแต่งและดีไซน์แปลนห้อง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว พอเข้ามาจะเจอกับพื้นที่โล่งเหมาะอย่างมากกับการบิวท์ตู้รองเท้า และตู้เก็บของขนาดยาวทางขวามือ

 

 

เดินตรงไปสุดห้องจะเป็นส่วนของ ห้องครัว แบบเปิดแต่แบ่งเป็นสัดส่วน หากครอบครัวไหนเน้นทำอาหารจริงจัง ก็สามารถกั้นด้วยประตูบานเลื่อน เพื่อทำเป็นครัวปิดป้องกันกลิ่นฟุ้งไปยังห้องอื่นๆ โดยได้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L เครื่องใช้ไฟฟ้าได้เหมือนกับห้องแรก 

 

แต่เพิ่มความพิเศษตรงได้หน้าต่างระบายอากาศ และเป็นการเพิ่มแสงสว่างไปในตัว โดยโซนนี้จะมีห้องซักล้างแยกไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าและชั้นวางของ

 

ย้อนกลับมาตรงบริเวณ Common Area เชื่อมพื้นที่กินข้าวกับห้องนั่งเล่นเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งมีขนาดกว้างขวางถึงกับวางโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่และเก้าอี้ได้ถึง 6 ที่นั่ง แต่ยังมีทางเดินได้แบบสะดวกสบาย

 

มุมในสุดเป็น ห้องนั่งเล่น เลือกวางโซฟาได้ขนาด 3-4 ที่นั่ง หรือโซฟาตัว L ก็สามารถ ส่วนฝั่งตรงข้ามวางทีวี 60 นิ้วก็ยังรู้สึกสบายตา บิวท์อินชั้นวางของด้านบนและด้านล่าง พร้อมโต๊ะกลางเก๋ๆ ก็ลงตัวสวยงาม

 

สำหรับช่องแสงขนาดใหญ่คือระเบียงด้านนอกเป็นประตูบานพับ ขนาดใหญ่จริงจังคือออกมานั่งเล่นได้ทั้งครอบครัว และยังมีพื้นที่พอให้ปลูกต้นไม้เพิ่มเติมได้

 

กลับเข้ามาไป ดูห้องนอน กันบ้างดีกว่า โดยห้องนอนเล็กเมื่อเทียบกับอีกห้อง เพราะในความเป็นจริงคือไม่เล็กเลยนะ แม้จะเป็นห้องแนวยาวแต่ก็ดูกว้างขวาง ซึ่งจะพบกับตู้เสื้อผ้าก่อนยังคงคอนเซ็ปต์ต้องเก็บเสื้อผ้าได้เยอะเหมือนเดิม

 

ซ้ายมือเป็น ห้องน้ำ แบบประตูบานเลื่อน ทำให้คนที่อยู่ในห้องนี้เข้าใช้ได้สะดวก โดยจะเข้าออกได้อีกทางคือฝั่งพื้นที่กินข้าวข้างนอก แน่นอนว่าพอมีพื้นที่ห้องมากเลยทำให้ห้องน้ำใหญ่ขึ้นตามไปด้วย การใช้งานเลยไม่รู้สึกอึดอัดสุขภัณฑ์ก็มีให้พร้อม ติดตั้งกระจกนิรภัยแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน

 

ขณะเดียวกันก็สามารถวางเตียง 5 ฟุต หรือเปลี่ยนเป็น 3.5 ฟุต เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะอ่านหนังสือสำหรับเด็ก อีกทั้งยังเปิดประตูเชื่อมออกไปยังระเบียงตรงห้องนั่งเล่น โดยที่ไม่ต้องออกจากห้องเลย ซึ่งห้องนี้ก็เป็นอีกห้องที่ท้าทายและน่าสนใจในด้านการดีไซน์ เพราะค่อนข้างวางได้หลายรูปแบบไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัว

 

ห้องนั้นทำไว้อย่างดีแล้ว Master Bedroom จะน้อยหน้าได้อย่างไรจริงไหม โดดเด่นด้วยหน้าต่างเต็มผนังทางฝั่งขวามือของเตียงนอน และเป็นแบบ Bay Window ที่ติดกับระเบียง ซึ่งสเปซตรงนี้มีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน

 

ส่วนเรื่องที่นอนยังคงวางขนาด 6 ฟุตได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะดูแคบ และยังวางโต๊ะหัวเตียงได้อีกต่างหาก

 

ด้านตรงข้ามทางโครงการบิวท์ตู้เสื้อผ้า แยกมาให้ถึงสองตู้สูงตั้งพื้นจรดเพดาน เพียงพอสำหรับอยู่ด้วยกันสองคน

 

และเข้าสู่ ห้องน้ำ โปร่งโล่งสบายด้วยช่องแสงบานใหญ่ สุขภัณฑ์ครบตามมาตรฐานเพิ่มอ่างอาบน้ำแบรนด์ Kasch คุณภาพระดับพรีเมียม

 

ต้องบอกเลยว่า ที่นี่คือคอนโด Super Luxury ที่ไม่ใช่แค่อยู่ใจกลางเมืองเท่านั้น แต่ยังออกแบบด้วยความพิถีพิถันตั้งแต่ Landscape การออกแบบอาคาร ตกแต่งภายใน รวมไปถึงพื้นที่ใช้สอยทุกๆตารางเมตรภายในที่พักอาศัย สมกับแนวคิดที่ว่า The Artistic Touch In Every Details Of Life จริงๆ 

 

ใครที่สนใจ ตอนนี้คือจังหวะที่ดีที่สุด เพราะโปรแรงมากๆ ราคา 2 ห้องนอน เริ่มต้น 15.85 ล้านบาท* ซึ่งพร้อมให้ทุกคนเข้าอยู่แล้ววันนี้ที่ "โครงการ MUNIQ สุขุมวิท 23" ลงทะเบียนพร้อมรับข้อเสนอพิเศษที่ลิงก์นี้เลย https://bit.ly/3qPHISW

About thailand

Hi, My Name is Hafeez. I am a webdesigner, blogspot developer and UI designer. I am a certified Themeforest top contributor and popular at JavaScript engineers. We have a team of professinal programmers, developers work together and make unique blogger templates.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Labels