รีวิวฉบับที่
1144 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการตึกเสร็จคอนโด D’Memoria พหลโยธิน 8
จาก Dwell Grand Asset ในทำเลอารีย์ฝั่งซอยพหลโยธินเลขคู่ หรือหลัง La
Villa อารีย์ ในซอยพหลโยธิน 8 หรือที่เรียกว่าซอยสายลม ห่างจากทางลง BTS
อารีย์ในระยะเดินประมาณ 900 เมตร หรือมี Shuttle Bus ของโครงการรับ-ส่ง
Fact @ 3 August 2016
- D’Memoria (ดิ เมโมเรีย)
- บริษัท ดี เวล แกรนด์ แอสเสท จำกัด
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : พญาไท
- คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้นและชั้นใต้ดิน 1 อาคาร จำนวน 123 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 18 ยูนิต
- ที่จอดรถชั้น 1 และชั้นใต้ดินประมาณ 71 คันคิดเป็น 60%
- ที่ดินประมาณ 1-0-9.5 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : เสร็จเรียบร้อยแล้ว (สิงหาคม 2559)
- 1 Bedroom 36.3 – 46.3 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 59.9 – 71 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 110,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 085 171 0808
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.778323, 100.548591
แผนที่โครงการ
คอนโด D’Memoria ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 8 หรือที่เรียกว่าซอยสายลม
สามารถเดินทางเข้าโครงการได้จากทั้งซอยพหลโยธิน 2, 6 และ 8
โดยซอยจากซอยพหลโยธิน 6 จะใกล้ BTS อารีย์ที่สุดที่ระยะ 900 เมตร
การเดินทางในพื้นที่ซอยอารีย์ถือว่าสะดวกทั้งในส่วนของระบบขนส่งสมัยใหม่อย่างรถไฟฟ้าสถานี
BTS
อารีย์ที่อยู่บนถนนใหญ่พหลโยธินและการใช้รถส่วนตัวเดินทางเพราะมีถนนใหญ่ขนาบข้างหลายเส้น
ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธินที่ใกล้ที่สุด ถนนวิภาวดีรังสิตที่ขนาดกันมา
สามารถเดินทางจากถนนพหลโยธินไป-กลับถนนวิภาวดีได้ด้วยซอยพหลโยธิน2
ที่เป็นทางยกระดับติดกับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก
เหนือถนนวิภาวดีก็จะเป็นโทลล์เวย์เข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก
หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิตก็ได้
ถนนใหญ่อีกเส้นที่ขนาดกันคือถนนพระราม6
ที่สามารถใช้เข้า-ออกเมืองได้เหมือนกัน
จากถนนพหลโยธินไป-กลับถนนพระรามหกก็สามารถใช้ซอยราชครูตรงไปเรื่อยๆข้ามคลองประปาพอดี
ความสำคัญคือเป็นที่ตั้งของทางขึ้น-ลงทางด่วนทั้งฝั่งเข้าเมืองที่ฝั่งคลองประปา
และฝั่งออกนอกเมืองที่ข้างๆโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
และสามารถไปฝั่งธนได้จากถนนเทอดดำริที่ขนานกับเส้นทางรถไฟบนดิน
ที่ไปได้ทั้งวังพญาไท เกาะรัตนโกสินทร์และข้ามสะพานไปฝั่งธน
ส่วนการเดินทางแบบไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัว
ที่นิยมที่สุดคือรถไฟฟ้าด้วยสถานี BTS อารีย์ จากตัวสถานีออกทางออกที่ 4
เดินลงมายังหน้า La Villa
เดินย้อนมาทางสะพานควายหน่อยก็จะเจอกับซอยพหลโยธิน 6 ที่มีพี่วินตั้งอยู่
สามารถจ้างเข้าไปส่งที่โครงการในระยะ 900 เมตร
แต่เนื่องจากซอยค่อนข้างแคบและคนเดินผ่านไม่มาก
ถ้าเป็นเวลากลางคืนต้องเดินแนะนำเป็นซอยพหลโยธิน 2 และ 8
จะมีคนพลุกพล่านกว่า แต่ทางโครงการจะมี Shuttle Bus ให้บริการ
แต่ก็จะต้องรอดูการสรุปเรื่องเวลาการให้บริการและจำนวนรอบต่อไป
มาถึงจุดเด่นของความเป็นอารีย์
คือความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ที่สูงมาก
ทั้งในส่วนของสิ่งปลูกสร้างในชีวิตประจำวันอย่างโรงพยาบาลเอกชนอย่างวิชัยยุทธตรงพระรามหก
โรงพยาบาลเปาโลที่อยู่แถวสะพานควาย และโรงพยาบาลพญาไท2 แถวสนามเป้า
โรงเรียนมัธยมสามเสนวิทยาลัย
โรงเรียนประถมฝั่งตรงข้ามซอยโครงการอย่างโรงเรียนสวนบัว
นอกจากนั้นก็จะมีสถานที่ราชการ กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์
ใครที่อยู่ในพื้นที่หน่อยก็จะรู้มาบ้างว่าจะมีการประท้วงนิดหน่อยที่ข้างพื้นที่กระทรวงตรงคลองประปา
ตึกออฟฟิสอย่างธนาคารออมสิน ททบ5 SM tower อาคารทิปโก้
และอาคารสำนักงานใหม่อย่าง Pearl Bangkok ที่อยู่ข้างตึก Exim Bang
ใกล้กับสถานี BTS อารีย์
นอกจากนั้นปัจจุบันในทำเลอารีย์
ถ้ามาเดินเล่นเดือนละครั้งจะเห็นว่าพื้นที่จะมีร้านอาหาร ร้านขายของ
หรือคาเฟ่ต่างๆ รวมถึง Event รายอาทิตย์เปิดใหม่และปิดตัวลงเยอะมาก
เพราะส่วนใหญ่ราคาเช่าจะสูงมากโดยเฉพาะฝั่งซอยพหลโยธิน 7
หรือซอยอารีย์ที่เดินง่ายกว่า
ส่วนซอยราชครูตรงข้ามกับกระทรวงการคลังจะน้อยหน่อย Community Mall
ขนาดใหญ่หน่อย เช่น La Villa ที่มี Supermarket อยู่ชั้นล่าง
ด้านบนเป็นร้านอาหารและบริการต่างๆ, Aree Garden ที่มี Hobs
เป็นร้านเรียกลูกค้า และที่เปิดใหม่ใกล้แยกสะพานควายอย่าง Aqua
นอกจากนั้นก็จะมีร้านเดี่ยวๆอยู่ตามชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ในซอย
สำหรับตัวโครงการจะอยู่ในซอยพหลโยธิน
8 ที่เป็นถนนหน้าโครงการ
แต่เส้นทางในซอยนี้จะเป็นเหมือนใยแมงมุมเชื่อมกันตั้งแต่ซอย 2-4-6-8
ทะลุไปถึงอินทามระ ไปออกถนนสุทธิสารได้เลย ในซอยอารีย์ฝั่งเลขคู่นี้
สภาพแวดล้อมและบรรยากาศจะเป็นโซนที่อยู่อาศัย ค่อนข้างเงียบสงบกว่า
ต่างกับพหลโยธินฝั่งเลขคี่อย่างซอยราชครูและซอยอารีย์ ที่จะมีร้านอาหาร
ร้านค้า ร้านนั่งชิลต่างๆ
การเดินทางเข้าโครงการมีด้วยกัน 3 วิธี
- ซอยพหลโยธิน 8 เส้นทางที่เราจะพาเดินในวันนี้ เหมาะกับการเดินทางด้วยรถ เพราะซอยมีขนาดใหญ่ มีผู้คนพลุกพล่าน สามารถใช้ตอนกลางคืนได้
- ซอยพหลโยธิน 6 เป็นเส้นทางที่มีระยะสั้นที่สุดในการจะไปขึ้น BTS อารีย์ที่ 900 เมตร ขนาดซอยค่อนข้างแคบกว่าซอยอื่นๆ มีพี่วินหน้าปากซอย
- ซอยพหลโยธิน 2 เป็นทางเชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินและเส้นวิภาวดี จะสะดวกกับคนที่ขับรถมาจากเส้นวิภาวดีที่สามารถเลี้ยวเข้าได้เลย
เริ่มต้นกันที่สถานี
BTS อารีย์ แตะบัตรผ่านออกมาแล้วก็มุ่งหน้าไปยังทางออกที่ 4 นะคะ
สองฝั่งตลอดทางจะมีร้านขายของ ร้านขายชาอย่าง Mr.shake, ชาตรามือ
และสามารถซื้อโจ๊กตอนเช้าหรือไอติมเดินกินกลับคอนโดได้ที่ McDonald
ปลายทางเดินมีตู้ Atm และร้านขายอาหารอีกจำนวนหนึ่ง
จากตรงนี้เดินตรงสุดทางเดิน เราจะเลี้ยวขวากันนะคะ
เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วจะเจอกับ
La villa เป็น Community mall
ที่เปิดในย่านอารีย์และยังได้รับการตอบรับที่ดีจนถึงทุกวันนี้
ภายในส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร มี Supermarket อยู่ที่ชั้นล่าง
รวมถึงมีร้านล้างรถ ร้านเสริมความงามและ Travel Agency ด้วย
เราจะเดินลงบันไดไปที่หน้า La villa กันก่อน
ลงบันได
BTS มาอยู่ที่ทางเท้าบนถนนพหลโยธินฝั่งเลขคู่
ด้านหน้าจะมีจุดจอดแท๊กซี่ซึ่งสามารถเรียกได้แน่ๆเพราะเป็นถนนใหญ่
ส่วนเราจะหันหน้าไปทางสะพานควายแล้วเดินตรงไปเรื่อย
เดินตรงมาก็จะเจอกับทางเข้า-ออกรถของ La villa ซึ่งจะมีรถผ่านไปมาจำนวนมากเนื่องจากที่จอดรถหายากมาก ต้องคอยระวังกันด้วยนะคะ
เดินตรงมาเรื่อยอยู่ที่หน้าโชว์รูมรถทางขวามือ ทางซ้ายมือจะเป็นทางขึ้น BTS ที่อยู่ใกล้กับคอนโดที่สุด
ซึ่งทางขึ้นนี้จะเป็นทางบันไดเลื่อนด้วย ส่วนทางลงที่ใกล้ที่สุดคือหน้า La Villa ที่เราเดินลงมากันเมื่อสักครู่
เดินตรงมาเรื่อยๆบนทางเท้า
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามจะเจอกับซอยพหลโยธิน 7 หรือซอยอารีย์
ที่ภายในจะมีร้านอาหารจำนวนมากที่เปิดอยู่ทั้งในซอยอารีย์
และซอยย่อยของอารีย์ ซึ่งจากคอนโดสามารถเดินมาทานได้ในระยะประมาณ 1-1.5
กิโลเมตร หรือจะปั่นจักรยานก็ได้
แต่ไม่แนะนำให้ขับรถมาเพราะร้านอาหารและคาเฟ่แถบนี้มีที่จอดรถจำกัดเหลือเกิน
ด้านบนเป็นสะพานลอยเชื่อม 3 จุด
เดินตรงมาเรื่อยๆเจอกับซอยพหลโยธิน 6 ที่หน้าซอยจะมีพี่วินคอยให้บริการอยู่
มองเข้าไปในซอยพหลโยธิน
6 จะสังเกตได้ว่าซอยจะค่อนข้างแคบแต่สวนกันได้เป็นทาง Two-way
ซึ่งการใช้เส้นทางซอยพหลโยธิน 6 เป็นทางเข้าโครงการที่ใกล้ที่สุดในระยะ 900
เมตร ซึ่งแนะนำเป็นการเดินในช่วงกลางวัน หรือโทรเรียก Shuttle Bus
จากโครงการมารับก็ได้ค่ะ
ส่วนเราจะไปเข้าซอยพหลโยธิน 8 ที่ขนาดซอยใหญ่กว่าและพลุกพล่านกว่าด้านหน้า ดังนั้นก็เดินตรงต่อไปอีกหน่อยนะคะ
เดินมาทางขวามือเร่ิมจะเป็นอาคารสำนักงานต่างๆ อย่างอาคารแรกคือ IBM
อาคารถัดมาคือธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่
ฝั่งตรงข้ามจะมีทางม้าลายเดินไปยังร้านอาหารเหลาเหลาที่คนเยอะมากในช่วงเวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป จอดรถกันยาวเหยียดริมถนน
เดินตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับ 7-11 และร้านขายอาหารและขายของแบบรถเข็นตามทางเท้า
นอกจากนั้นก็จะมีตามทางในซอยก่อนเข้าอาคารสำนักงานด้านใน
ตรงมาอีกเป็นอาคารสำนักงาน พหลโยธิน เพลส ที่แบ่งพื้นที่ให้เช่า มีทั้งธนาคารและร้านให้บริการต่างๆ
เดินตรงมาอีกก็จะมี Mc Donald ในอาคารที่เป็นแบบเปิด 24 ชั่วโมง, Villa Market, ร้าน S&P และวราพร ซาลาเปาอยู่ที่ชั้นล่าง
หันไปทางซ้ายมือก็จะเจอกับจุดกลับรถหน้าซอยพหลโยธิน
8
โดยถ้าวิ่งจากถนนพหลโยธินจากสนามเป้ามาก็สามารถจอดรถเพื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยได้เลย
ซอยพหลโยธิน
8 หรือซอยสายลมถือว่าเป็นซอยขนาดใหญ่ในพื้นที่อารีย์
โดยด้านหน้าของซอยทั้งสองฝั่งจะเป็นอาคารสำนักงานที่มีชั้นล่างๆเป็นร้านค้า
เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ได้ดี
แม้ว่าจะไม่เท่ากับพื้นที่อารีย์หลักหรือแถวซอยพหลโยธิน 7 ก็ตาม
การสัญจรของซอยสายลมจะเป็นทางเดินรถ
2 เลนสวนกันได้เป็น Two-way โดยทางซ้ายมือจะมีพี่วินตั้งอยู่ในระยะ 30
เมตรจากปากซอยสามารถเรียกใช้บริการได้
หรือแท๊กซี่หน้าปากซอยก็หาได้ง่ายเช่นกัน
เราตรงเข้ามาเรื่อยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่
พื้นที่บ้านเปลี่ยนการใช้งานเป็นออฟฟิศบ้าง และร้านอาหาร-คาเฟ่บ้างประปราย
โดยทั้งสองฝั่งยังมีทางเท้าให้คนเดินได้สะดวก
ตรงเข้ามาทางซ้ายมือคือร้านอาหารนิตยาไก่ย่าง
ส่วนทางขวามือเป็นอพาร์ตเมนท์ให้เช่าที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านค้าอย่างร้านซักรีด
ร้านเสริมสวย
ตรงเข้าไปอีกก็จะเป็นอาคารสำนักงานในซอย ชั้นล่างๆหน่อยจะเปิดให้เป็นร้านบริการอย่างร้านหมอฟัน ร้านขายกาแฟ ร้านรับเลี้ยงสัตว์
ตรงเข้ามาอีกจะเจอกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงขนาดใหญ่มาก เราจะตรงไปจนสุดแล้วจะมีทางบังคับเลี้ยวขวานะคะ
ตรงเข้ามาจะมีป้ายบอกทางลัดว่าเลี้ยวซ้ายตรงนี้สามารถไปออกสุทธิสารได้ด้วยนะเธอ แต่เราจะตรงไปเรื่อยๆก่อนนะคะ
ในซอยลึกเข้ามาหน่อยก็จะไม่มีพื้นที่เชิงพาณิชย์แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่แบบไม่จัดสรรซะมากกว่า
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับทางแยกทางซ้ายคือซอยพหลโยธิน
6 คือถ้าใครเข้าจากปากซอยก็จะลัดเลาะมาออกที่จุดนี้ ส่วนโครงการคอนโด
D’memoria จะอยู่ทางซ้ายมือใกล้ๆหลังต้นไม้นี้ค่ะ
เดินมาอยู่หน้าโครงการเรียบร้อย
จากจุดที่ยืนอยู่หน้าโครงการ หันไปทางขวามือจะเป็น 3 แยก คือซอยสายลมที่เราเข้ามาเป็นถนนหน้าโครงการซึ่งมีซอยพหลโยธิน 6 มาบรรจบกัน
ส่วนถ้าเรายืนอยู่หน้าโครงการหันไปทางซ้าย
ก็จะเจอกับซอยหลโยธิน 8 หรือซอยสายลมเป็นซอยหน้าโครงการ
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ก่อสร้างของโครงการบ้านแฝดจำนวน 8 หลัง
เดินลึกเข้ามาในซอยทางซ้ายมือหน่อยก็จะเป็นพื้นที่ของซอยสายลมอยู่
ถ้าตรงไปเรื่อยๆก็จะเป็นซอยตัน
แต่จะมีซอยเล็กแยกย่อยอยู่ทางซ้ายอีกนิดหน่อย
มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ
ที่ดินโครงการรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบลึกเข้าไปอยู่ในซอยพหลโยธิน 8
หรือถ้าจากถนนพหลโยธินก็จะเป็นฝั่ง La Villa
ที่ในซอยจะมีความคึกคักน้อยกว่าฝั่งตรงข้าม
พื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
ต้นๆซอยหน่อยจะมีอพาร์ตเมนท์ให้เช่าและ Home office บ้าง
ปัจจุบันมีการซื้อที่ดินแปลง 1 ไร่สร้างเป็นคอนโด Low rise ในซอย
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
: ทางเข้า-ออกโครงการเป็นซอยพหลโยธิน 8 สามารถเดินรถสวนกันได้
ถ้าตรงไปทางซ้ายจะเป็นซอยตัน
ฝั่งตรงข้ามกับแปลงที่ดินคือพื้นที่ก่อสร้างโครงการบ้านแฝดจำนวน 8 หลัง
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ : บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่เรียงกันไปเรื่อยๆ มีซอยสายลมย่อยเชื่อมกับซอยพหลโยธิน 8 แต่ความกว้างของซอยไม่มาก
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่เช่นกัน เข้า-ออกจากซอยสายลมย่อย ความกว้างของซอยไม่มากนัก
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : บ้านพักอาศัยมีบริเวณพื้นที่สีเขียวเยอะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- BTS อารีย์/ Villa Ari 900 เมตร (ระยะเดิน)
- อาคาร Exim bank 1.1 กิโลเมตร (ระยะเดิน)
- ททบ.5 1.4 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- SM Tower 1.4 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- โรงพยาบาลพญาไท 2 1.7 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ 2.2 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- กรมประชาสัมพันธ์ 2.5 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- Aree Garden 2.8 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- กระทรวงการคลัง 2.8 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- สวัสดิการทหารบก 3.1 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- โรงพยาบาลวิชัยยุทธ 3.2 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย 3.4 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล 3.6 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
ภาพถ่ายภายนอกจากโครงการ D’Memoria คอนโด
Low Rise สูง 8 ชั้น 123 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว I ตอนลึก
หันหน้าโครงการออกซอยพหลโยธิน
8 ตัวอาคารใช้โทนสีน้ำตาล-ขาว-เขียวตกแต่ง ชั้น 1
เป็นชั้นจอดรถใต้อาคารและมีทางลงไปชั้นจอดรถใต้ดิน ห้องนิติบุคคล และ Lobby
ที่อยู่ด้านหน้าเป็นแบบ Double Volume สูงถึงฝ้าเพดานชั้น 2
และมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 โดยพื้นที่ชั้น 8
จะแบ่งพื้นที่ใกล้ลิฟท์ส่วนหน้าอาคารเป็นห้องฟิตเนส
และทางเดินขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าที่มีสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวพร้อมพื้นที่นั่งเล่น
เร่ิมกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ D’Memoria เข้า-ออกได้จากซอยพหลโยธิน
8 แปลงที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ
รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างที่ดินคือตัว I ตัวคอนโดสูง 8 ชั้นเป็นอาคาร Low
rise จากทางเข้าตรงเข้ามาพื้นที่จอดรถชั้น 1
ซ้ายมือมีทางลงไปยังชั้นจอดรถใต้ดิน สัดส่วนพื้นที่จอดรถอยู่ที่ประมาณ 71
คันคิดเป็น 60% โดยทางเข้าอาคารจก็จะเข้าได้จากทางเดินซ้ายมือ
เปิดเข้ามาเจอ Lobby มีทางเดินเข้าไปยัง Mailbox
ทั้งสองฝั่งและห้องน้ำด้านในพร้อมบันไดหนีไฟที่เชื่อมต่อตั้งแต่ชั้นใต้ดินถึงชั้นดาดฟ้า
ซ้ายมือคือโถงลิฟท์ด้านในประกอบไปด้วยลิฟท์ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่
62:1 เป็นระบบแบบล็อกชั้นด้วย Keycard พื้นที่อื่นก็จะเป็นส่วน Service
เช่นห้อง CCTV ห้องนิติบุคคล ห้องควบคุมงานระบบ
เริ่มต้นที่หน้าโครงการ
ประตูโครงการสามารถเลื่อนปิดได้แต่จะปิดในช่วงเวลากลางคืน
ส่วนเวลากลางวันก็จะเปิดไว้แล้วเป็นที่เลื่อนเปิดเข้า-ออกแทน
เดินเข้ามาภายในบริเวณคอนโด ฝั่งขวามือจะเป็นป้อมพี่ยามอยู่ในส่วนนอกอาคาร
ลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นช่องจอดรถเข้าซองแบบใต้อาคารไม่โดนแดดโดนฝน
โดยมี Shuttle Bus จอดรอให้บริการอยู่ ซึ่งสามารถนั่งเบียดๆกันได้ราว 6 คน
โดยกำหนดว่าจะไปรับ-ส่งที่สถานี BTS
แต่ยังไม่มีการกำหนดเวลาและจำนวนรอบนะคะ
ทางซ้ายมือจะเป็นสวนหินที่ภายนอกอาคาร สามารถเปิดเป็นน้ำพุได้ ส่วนทางเดินข้างๆกันจะเป็นทางเดินเข้า Lobby ภายในอาคาร
Facade
ด้านหน้าโครงการสำหรับชั้น 2-3 จะพิเศษกว่าชั้นอื่นๆคือมีโครงฉลุลาย
นอกจากจะเพื่อความสวยงามแล้วก็เพื่อความปลอดภัยของห้องด้านหน้าโครงการสำหรับชั้นไม่สูงมาก
เนื่องจากมีระเบียงด้านหน้าโครงการด้วย
ก่อนที่เราจะเข้าไปดูภายในอาคารส่วน
Lobby เราจะตรงเข้ามาส่วนพื้นที่จอดรถชั้น 1 และชั้นใต้ดินกันก่อนนะคะ
ตรงเข้ามาจะมีทางเดินรถตรงกลาง ทั้งซ้าย-ขวามือจะเป็นที่จอดรถในซอง
ตรงเข้ามากลางอาคารจะมีทางลาดลงไปยังพื้นที่จอดรถชั้นใต้ดิน
ส่วนพื้นที่ชั้น
1 ก็สามารถตรงเข้าไปจอดได้อีกที่ด้านหลัง
แต่ชั้นใต้ดินที่เป็นชั้นจอดรถจะไม่มีลิฟท์
ทำให้คนที่จอดรถจะต้องเดินขึ้นทางลาดมายังชั้น 1 แล้วค่อยเดินเข้า Lobby
อีกที
กลับมาพื้นที่ด้านหน้าโครงการทางซ้ายมือที่เป็นสวนหิน ด้านหลังเสาจะเป็นทางเดินเข้าไปยังพื้นที่นั่งเล่นและประตูเข้าไปยัง Lobby
พื้นที่นั่งเล่นด้านนอกจัดให้เป็นชุดเก้าอี้ 4 ตัว 2 โต๊ะกลาง มีความสูงกินถึงความสูงฝ้าของชั้นสอง ทำให้ดูโปร่งและกว้างขวางดี
เปิดประตูเข้ามาที่
Lobby บนชั้น 1 หันมาทางซ้ายมือจะเจอกับชุดโซฟา 2 จุด
โดยมีการตกแต่งออกแนวหรู พื้นผิวของการตกแต่งมีการสะท้อน
ไม่ได้เป็นแบบเรียบๆพื้นผิวด้านๆ หน้าต่างเป็นกระจกใสทำให้แสงเข้าสู่ Lobby
ได้ดี
เดินมาที่ส่วนชุดโซฟา มองไปยังพื้นที่เคาท์เตอร์ด้านหน้าจะเป็นที่นั่งของ Sales ในปัจจุบัน มีทางเดินเข้าไปยังโถงลิฟท์ทางซ้ายมือ
ทางเดินเข้าโถงลิฟท์และพื้นที่ Mailbox
โถงลิฟท์จะกั้นด้วยระบบ
Keycard access สำหรับลูกบ้าน
และถ้าเป็นแขกก็สามารถกดเบอร์ห้องของคนรู้จักแล้ว Phone
ขึ้นไปที่ห้องเพื่อติดต่อกับเจ้าของห้องได้
เราจะมาลงดีเทลที่ส่วนการเข้า-ออกกันอีกทีนะคะ
ทางขวามือเป็นพื้นที่ Mailbox ทั้งสองฝั่ง ทำได้สวยมีดีเทลดี
โดยเฉพาะการออกแบบระหว่างช่อง
ก็จะมีส่วนที่เป็นการเว้นพื้นที่ไว้สำหรับถังขยะที่มี Finishing
วัสดุสวยงาม ออกแบบได้ดี ไว้สำหรับลูกค้าเปิดจดหมายแล้วไม่ต้องการ
ก็สามารถฉีกแล้วทิ้งตรงนี้ได้เลย
ดีเทลอื่นๆก็จะมีจุดวางร่มอยู่ข้างๆกับ Mailbox และมีกล้อง CCTV จับภาพในพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด
ด้านในสุดเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ
ขวามือคือตู้เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง
ส่วนทางซ้ายมือคือบันไดหนีไฟที่เชื่อมตั้งแต่ชั้นจอดรถใต้ดินไปจนถึงชั้นดาดฟ้าบนสุด
ภายในห้องน้ำชั้น 1 จะเป็นแบบ Powder room คือไม่มีส่วนอาบน้ำ เหมาะสำหรับการใช้งานของแขกทั่วไป
กลับมาที่การเข้า-ออกโถงลิฟท์
สำหรับลูกบ้านก็แตะ Keycard แตะที่เครื่องอ่านสัญญาณสีดำด้านล่างได้เลย
ส่วนคนที่เป็นผู้มาติดต่อก็จะต้องกดเบอร์ห้องที่เครื่องด้านบน
ส่วนการออกจากโถงลิฟท์ก็จะเปิดการแตะเพื่อเปิดปกติ
ภายในโถงลิฟท์ชั้น
1 ก็จะมีเก้าอี้ให้นั่งรอจัดสวยๆอยู่ฝั่งตรงข้ามกับลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
โดยมีอัตราส่วนลิฟท์ของโครงการที่ 64:1 ถือว่าไม่มากนะคะ
โดยภายในลิฟท์ก็จะมีราวจับ
ส่วนการใช้งานก็จะต้องแตะ Keycard อีกครั้งเพื่อกดปุ่มชั้นพักอาศัย
โดยลิฟท์จะเป็นระบบ Proxy Lift หรือลิฟท์ล็อกชั้นนั้นเอง
ที่ชั้น
2 เริ่มเป็นชั้นที่มีส่วนของห้องพักจำนวน 17 ยูนิต
เพราะพื้นที่ส่วนหน้ามีการแบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างส่วน Double
volume ของ Lobby การจัดเรียงห้องพักเป็นแบบ Double Corridor
ตามแนวตึกรูปตัว I หันหน้าชนกัน โดยห้องพักมี 2 แบบ คือ 1
ห้องนอนเป็นห้องตรงกลาง
ห้องทิศเหนือจะมีขนาดเล็กกว่าห้องทางทิศใต้ซึ่งเป็นแบบห้อง 1
ห้องนอนที่แตกต่างกันที่บานเลื่อนและแบบบานเปิดประตู ส่วนแบบ 2
ห้องนอนเป็นห้องมุมจำนวน 3 ยูนิต
กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น
2 จะพามาดูในส่วนของทางเดินชั้นห้องพักกันบ้าง
เปิดประตูลิฟท์โดยสารออกมาก็จะเจอกับพื้นที่รอหน้าลิฟท์
มีหน้าต่างบานเลื่อนแสงเข้าถึง
พอเข้าอาศัยจริงๆแล้วก็น่าจะมีการเปิดหน้าต่างแทนการเปิดแอร์เพื่อประหยัดและให้ลมระบายภายในพื้นที่โถงทางเดินนะคะ
กลับมายืนอยู่หน้าหน้าต่างบานเลื่อนหันหน้าไปยังพื้นที่ทางเดินห้อง
โดยถ้าเป็นชั้น 3-7
จะมีห้องทางขวามือซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหน้าของโครงการด้วย แต่ที่ชั้น 2
จะเป็นส่วน Double volume ของ Lobby การเดินจะบังคับเดินทางเดียว
ทำให้ห้องที่อยู่ใกล้ลิฟท์จะมีการเดินผ่านของเพื่อนบ้านมากกว่าอย่างเลี่ยงไม่ได้
เดินเลี้ยวซ้ายมาก็จะเจอกับทางเข้าห้องพักทั้งซ้าย-ขวามือ
โดยเป็นแบบ Double corridor คือมีห้องพักฝั่งตรงข้าม ยาวเข้าไปจนสุด
โดยมีตำแหน่งบันไดหนีไฟ 2 จุด
บันไดหนีไฟจุดแรกที่อยู่ใกล้ลิฟท์
เดินมาจนสุดทางเดินจะมีเหลี่ยมมุมเดินไปยังบันไดหนีไฟที่อยู่ท้ายโครงการ
บันไดหนีไฟจุดที่สอง
ห้องพักชั้น
3-7 จะเป็นแบบ Typical floorplan ซึ่งคล้ายกันกับชั้น 2 จำนวนยูนิตอยู่ที่
18 ห้อง ที่เพิ่มเข้ามาคือยูนิต 2 ห้องนอนตรงข้ามโถงลิฟท์
เป็นห้องที่อยู่ส่วนหน้าของโครงการ
มีเพื่อนบ้านภายในชั้นเดียวกันผ่านเยอะแน่นอน
การเลือกห้องพักนอกจากจะดูที่ทิศต่างๆตามรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยก็จะต้องดูขนาดห้องตามที่ต้องการ
อย่างห้อง 1 ห้องนอนทางทิศเหนือจะมีส่วนครัวเชื่อมกับระเบียง
ทำให้เหมาะกับการทำอาหารมากกว่าห้องแบบ 1
ห้องนอนทางทิศใต้ซึ่งส่วนครัวอยู่ฝั่งทางเดิน
แต่ห้องทางทิศเหนือจะมีขนาดเล็กกว่าที่ 36.3 ตารางเมตร
ซึ่งใช้ประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ทำให้อาจจะไม่มีการแบ่งสัดส่วนดีเท่าห้องฝั่งใต้ที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีการแบ่งสัดส่วนด้วยประตูบานปิด
นอกนั้นแบบ 2 ห้องนอนที่มีจำนวนไม่มากก็มีขนาดและแบบต่างกันตาม 4 มุม
ชั้น
8 แบ่งพื้นที่ห้องพักซะเป็นส่วนใหญ่คือ 16 ยูนิต
ส่วนด้านหน้าหรือส่วนที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าจากลิฟท์โดยสารจะแบ่งพื้นที่เป็น
2 ส่วน คือห้องฟิตเนสที่มีห้องน้ำภายในได้วิวหน้าโครงการ
และทางซ้ายมือจะเป็นห้องที่เปิดประตูออกไปจะเจอกับบันไดทางขึ้น
เมื่อขึ้นมาแล้วทางขวามือจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 3.5 x 12.5 เมตร
พร้อมพื้นที่ข้างสระไม่ใหญ่มากได้วิวหน้าโครงการ
แต่ถ้าจากทางเดินแล้วหันไปทางซ้ายจะเจอกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นที่ปูด้วยหญ้าเทียมพร้อมจัดชุดเก้าอี้สนามไว้ให้
2 จุด โดยชั้นดาดฟ้านี้จะไม่สามารถขึ้นได้ด้วยลิฟท์โดยสาร
แต่จะมีบันไดทางขึ้น และบันไดหนีไฟเป็นทางขึ้น-ลงทำให้อาจจะไม่สะดวกมากนัก
ต่อมาเราขึ้นมาที่ชั้น
8 เมื่อออกมาจากลิฟท์โดยสารทางซ้ายมือจะเจอกับ 3 ประตู
โดยประตูทางขวามือคือทางเข้าห้องฟิตเนสที่อยู่ส่วนหน้าของโครงการ
ประตูตรงกลางคือทางเข้าไปยังบันไดที่ขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าที่มีพื้นที่นั่งเล่นและสระว่ายน้ำ
ส่วนประตูซ้ายมือสุดคือประตูทางเข้าห้องพักที่อยู่บนชั้น 8 จะต้องมีการแตะ
Keycard อีกครั้งเพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
ภายในห้องฟิตเนสมีเครื่องเล่นด้วยกัน 5 เครื่อง ได้วิวหน้าโครงการ ภายในมีห้องน้ำในตัว
ต่อมาเราจะมาเข้าประตูตรงกลางที่สามารถขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าได้
เปิดเข้ามาก็จะเจอกับบันไดทางขึ้น
โดยมีชานพักอยู่ตรงกลาง บันไดเป็นปูนซีเมนท์ไม่มีการปิดกระเบื้องทับ
แต่มีการติดกันลื้นไว้ให้เรียบร้อย
ขึ้นมาถึงชานพักมองขึ้นไปด้านบน
เมื่อเดินขึ้นบันไดก็จะเจอกับอีกชานพักหนึ่งที่มีทางเข้าทางขวามือเพื่อออกไปยังพื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำหน้าโครงการ
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด
3.5 x 12.5 เมตร ขนาดไม่ใหญ่และไม่มีสระเด็ก
โดยจะมีพื้นที่ข้างสระเพียงข้างเดียว มีเก้าอี้สนามวางให้ 3 ตัวถ้วน
ได้วิวหน้าโครงการ
วิวจากพื้นที่นั่งเล่นข้างสระว่ายน้ำจะเป็นวิวตึกบนถนนพหลโยธินรวมถึงเส้นทางรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท
จากทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ ขึ้นบันไดมาจนาสุดก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นได้วิวหน้าโครงการอีกเช่นกัน
ส่วนพื้นที่ด้านหลังของสระว่ายน้ำก็จะเป็นพื้นที่สีเขียวที่ปูด้วยหญ้าเทียม
รอบๆเป็นต้นไม้พุ่มและไม้กระถาง วางเก้าอี้นอนยาวให้ 2 ตัว
ที่มุมก็จะมีเก้าอี้สนามให้อีกจุดหนึ่ง
วิวรอบๆโครงการฝั่งเหนือ
ส่วนพื้นที่ด้านหลังของดาดฟ้าก็จะเป็นส่วนบันไดหนีไฟและงานระบบต่างๆ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1 – Lobby พร้อม Wi-fi
- ชั้น 1 และชั้นใต้ดิน – ที่จอดรถประมาณ 71 คันคิดเป็น 60%
- ช้น 8 – ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
- ชั้นดาดฟ้า – สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 3.5 x 12.5 เมตร สระลึก 1.2 เมตร
- ชั้นดาดฟ้า – สวนปูด้วยหญ้าเทียม พื้นที่นั่งเล่น
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โครงการ 63:1 (Proxy Lift)
- ระบบ CCTV / Access Card
- Shuttle Bus ไป-กลับ สถานี BTS อารีย์
ห้องตัวอย่างของโครงการในวันนี้มีแบบเดียว
คือแบบ 1 ห้องนอน ความจริงแล้วแบบ 1 ห้องนอนจะมีด้วยกัน 2 ขนาดคือ 36-37
ตารางเมตรที่อยู่ทางทิศเหนือของโครงการ และ 44
ตารางเมตรที่เป็นห้องตัวอย่างทางทิศใต้ของโครงการ
ห้องตัวอย่าง
1 ห้องนอนห้องนี้เป็น Type 1C-1 พื้นที่ห้องขนาด 43.6 ตารางเมตร
รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ แบ่งพื้นที่ Living
และห้องนอนประมาณอย่างละครึ่ง
เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอส่วนครัวอยู่ทางซ้ายมือก่อน
ส่วนทางขวามือเป็นตู้เก็บของใช้ต่างๆ ด้านในเป็นโต๊ะทานเข้าแบบ 2 ที่นั่ง
ลึกเข้าไปอีกคือส่วนนั่งเล่น ด้านหนึ่งจะเป็นโซฟาและโต๊ะเข้าชุดกัน
ฝั่งตรงข้ามของห้องจะเป็นชั้นวางทีวี
ด้านในสุดข้างๆกับชั้นวางทีวีจะมีประตูบานผลักเปิดออกไปจะเจอกับระเบียงที่สามารถเข้าได้จากห้องนั่งเล่นนี้
และบานเลื่อนจากห้องนอน
ส่วนทางเข้าห้องนอนจะเป็นประตูบานเปิดระหว่างพื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งเล่น
โดยเปิดเข้าไปด้านหน้าจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงาน
ขวามือคือเตียงพร้อมฟูก ข้างเตียงจะเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียง
ส่วนทางซ้ายมือของทางเข้าห้องนอนคือพื้นที่ Walk-in Closet
ทั้งสองฝั่งก่อนจะถึงห้องน้ำด้านใน
ประตูทางเข้าห้องพักเป็นประตูไม้แล้วทาสีเขียวตุ่นๆทับ
ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นกันเท่าไรนะคะ ปกติจะเป็นสีธรรมชาติของวัสดุเลย
ที่ให้มากับประตูคือตาแมวและ Digital Doorlock
Digital Doorlock จาก Yale มาพร้อมกับคันโยกไว้เปิดเข้า-ออก โดยระบบการ Access ทำได้ทั้งแตะบัตรและกดรหัสเข้าห้อง
พื้นภายในห้องส่วนหน้าที่เป็นส่วนพื้นที่ครัวจะปูด้วยกระเบื้องขนาด
60 x 60 เซนติเมตร มีระดับที่สูงกว่าทางเดินตรงกลางนิดหน่อย
เปิดประตูสุดไปจะมี Door stop กันคันโยกและประตูกระแทกกับผนังที่ติด
Wallpaper
จากประตูทางเข้าห้อง
ส่วนแรกที่เจอคือพื้นที่ครัว
ด้านในลึกเข้าไปจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีประตูเปิดออกไปทางซ้ายเจอระเบียงที่เปิดได้จากห้องนอนด้วย
ระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเปิดเข้าไปยังห้องนอนที่มี
Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
เราเดินมาที่พื้นที่ห้องนั่งเล่นแล้วมองกลับไปที่ห้องครัวขนาด
2.4 x 2.4 เมตร กันบ้างนะคะ ทางขวามือคือเคาท์เตอร์ครัวส่วนล่างและบน
โดยมีตู้เย็นอยู่ข้างๆกัน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นตู้ติดกับผนัง
ส่วนชั้นวางของด้านบน 2 ชิ้นจะไม่อยู่ในรายการขายนะคะ
รายการขายของโครงการจะมี
2 แบบคือ Fully furnished คือเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่และแอร์ทุกห้อง
อีกแบบคือ Full option คือเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าตามห้องตัวอย่างเข้าไปอีก
ส่วนใครที่เลือกแบบ Fully furnished เพราะไม่ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า
ทางโครงการก็จะมีส่วนลดให้เป็น Case by case ไปนะคะ
พื้นที่ครัวส่วนเคาท์เตอร์ล่างจะแบ่งออกเป็น
2 ส่วนคืออ่างล้างจาน 1 หลุมแบบฝังลงไปจาก Teka และส่วนซ้ายมือคือ Hobs
and hood จาก Mex เช่นกัน ส่วนด้านล่างจะเป็นพื้นที่เก็บของใต้อ่างล้างจาน
ที่วางไมโครเวฟ และลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ภายในครัวต่างๆ
ส่วนด้านบนมีทั้งแบบเปิดโล่งและบานปิดที่เป็นช่องเก็บงานระบบไฟต่างๆภายในห้องชุด
เหนือเคาท์เตอร์ด้านล่างลึก
60 เซนติเมตร จะเป็นอ่างล้างจาน และ Hobs and hood จาก Mex
โดยจะมีแผ่นหินปิด Ontop รวมถึงตัดเป็นแผ่นที่ผนังเพื่อให้ไม่มีร่อง
ส่วนผนังติดเป็นกระจกเพื่อการทำความสะอาดที่ง่ายกว่า Wallpaper
หรือปูนฉาบเรียบทาสีขาว
Hobs แบบ 2 เตา and hood จาก Mex เมื่อเลื่อนออกก็จะมีไฟและที่ดูดควันก็จะทำงาน
ช่องเก็บของสำหรับเคาท์เตอร์ด้านล่าง
ช่องเก็บของสำหรับเคาท์เตอร์ด้านบน
พื้นที่เว้นไว้สำหรับการวางตู้เย็นทางขวามือ
ส่วนทางซ้ายมือที่เป็นตู้เก็บของส่วนหน้าลึก
40 เซนติเมตร ก็จะเป็นแบบบานเปิดทั้งหมด ภายในแบ่งช่องไว้ให้เรียบร้อย
สามารถเก็บได้ทั้งรองเท้า ร่ม ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
ส่วนชั้นวางของไม่ได้ให้มาแต่สามารถนำไปเป็นไอเดีย เช่น
การวางชั้นหนังสือหรือของโชว์ต่างๆ
ที่ใกล้กับประตูจะมี
Airphone สำหรับติดต่อกับเพื่อนที่จะเชื่อมกับเครื่องหน้าโถงลิฟท์ที่ชั้น 1
โดยจะสามารถติดต่อได้ทั้งเสียงและภาพแบบวีดีโอเพื่อยืนยันหน้าตา
ต่อมาเป็นห้องนั่งเล่นด้านในกว้าง
2.7 เมตร ทางขวามือจะเป็นโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2
ตัวซึ่งยังมีพื้นที่เหลือสามารถเพิ่มเก้าอี้อีกได้ ด้านในเป็นโซฟาเข้าชุด
ส่วนฝั่งตรงข้ามคือชั้นวางทีวีที่ต่อระบบไว้ให้เรียบร้อยและตำแหน่งแอร์
ด้านในสุดคือหน้าต่างบานเลื่อน
ส่วนที่เข้ามุมทางซ้ายมือคือประตูบานเปิดที่สามารถเชื่อมไปยังระเบียงที่ต่อกับห้องนอนได้
ความสูงพื้นถึงฝ้าของห้องพักอยู่ที่ 2.45 เมตร
การเปลี่ยนการใช้งานจากพื้นที่ครัวไปยังพื้นที่นั่งเล่นก็จะเปลี่ยนวัสดุพื้นจากกระเบื้องสีอ่อนขนาด
60 x 60 เซนติเมตร ไปยังลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร
โดยมีตัวปิดระหว่างวัสดุเพื่อความเรียบร้อย
โต๊ะทานข้าวแบบกระจกทรงกลม พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว
ชุดโซฟาแบบยาว
และแบบ Armchair เดี่ยวอีกตัวหนึ่งพร้อมโต๊ะกลาง
ผนังด้านขวาที่เห็นเป็นหน้าต่างสีเขียวระหว่างกระจกนั้นเป็นแบบ Built-in
สามารถเปิดได้จริง
เปิดออกมาเก็บของได้นิดหน่อยเพราะความลึกของชั้น Built-in อยู่ที่ 12 เซนติเมตรเท่านั้น
ผนังฝั่งตรงข้ามกันคือชั้นวางทีวีแบบเตี้ย
โดยมีตำแหน่งแอร์ที่โครงการให้มาในรายการขายติดตั้งเรียบร้อย ผนังติด
Wallpaper ให้เหมือนห้องตัวอย่างเลย
ชั้นวางทีวีสามารถเปิดบานตู้ออกได้
ที่ด้านในเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่และหน้าต่างบาน
Fixed เพื่อเพิ่มช่องแสงให้เข้ามาภายในห้องพักได้ดี
กรอบอลูมิเนียมสีเทาเข้มและกระจกตัดแสงเพื่อลดปริมาณความร้อนที่จะเข้ามาภายในห้อง
โดยสามารถติดม่านได้เหมือนห้องตัวอย่างคือ 2 ชั้นแบบทึบและแบบโปร่ง
ทางซ้ายมือเป็นประตูบานเปิด ลูกพักเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง สามารถเปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียงที่เชื่อมกับห้องนอนได้
โดยจะมีที่จับแบบคันโยกและลูกบิดจากด้านในห้องนั่งเล่น
กรอบประตูตั้งอยู่เหนือระดับพื้นห้องพอสมควร
โดยพื้นที่ระเบียงขนาด 1.0 x 2.6 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30
เซนติเมตร มีราวกันตก
ด้านในสุดมีตำแหน่ง
Comdensing แอร์ 2 ตัวของห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ส่วนด้านล่างเป็นที่วางเครื่องซักผ้า พร้อมต่อระบบท่อเรียบร้อย
โดยจากความสูงของที่แขวน Condensing unit
แล้วจะเหมาะกับเครื่องซักผ้าฝาหน้ามากกว่าฝาบน
รวมถึงมีปลั๊กไฟพร้อมที่ครอบกันน้ำ
ระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเปิดเข้าไปยังห้องนอนได้
โดยประตูห้องนอนเป็นบานที่เหมือนกับประตูทางเข้าหลักคือวัสดุไม้ทาสีเขียวทับ
พื้นห้องนอนก็จะเป็นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรเหมือนกับห้องนั่งเล่น
เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับห้องนอนกว้าง
2.6 เมตร ที่วางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ให้
โดยรายการขายของโครงการนี้ได้ทั้งหมดตามที่เห็นยกเว้นของตกแต่ง
แต่ได้ทั้งฐานเตียงและฟูกตามนี้เลยนะคะ
ส่วนตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานได้
ส่วนมุมด้านในเป็นตู้ข้างเตียง ตำแหน่งแอร์
และประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียง ส่วนทางซ้ายมือเป็น Walk-in Closet
ระหว่างทางเดินเข้าห้องน้ำภายในห้องนอน
ยืนที่พื้นที่ข้างเตียงทางซ้ายมือ
มองไปยังพื้นที่ระเบียง ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือ 45 เซนติเมตร
แต่มีการต่อระบบทีวีไว้ให้เรียบร้อย คงต้องเป็นการติดตั้งแบบติดผนัง
เพื่อให้เดินได้สะดวก
พื้นที่ผนังตรงข้ามกับเตียงก็มี Wallpaper พร้อมระบบทีวีมาให้เรียบร้อย แต่ทางเดินปลายเตียงเหลือแคบไปหน่อย
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวามือเหลือพื้นที่ 85 เซนติเมตร ไม่มีโต๊ะข้างเตียงให้เพราะจากรูปจะเป็นของตกแต่งจากโครงการ
ประตูบานเลื่อนออกไปยังพื้นที่ระเบียงเป็นแบบ 2 ตอน กรอบเป็นอลูมิเนียมสีเทาเข้ม ลูกฟักเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง
โดยมีความสูงของกรอบประตูเหนือขึ้นมาจากพื้นห้องนอนและระเบียงเพื่อกันน้ำเข้าห้อง
ระเบียงขนาด
1.0 x 2.6 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีขาวขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
มีราวกันตกพร้อมกับฉากอลูมิเนียมปิด Condensing unit
ที่ฝั่งซ้ายมือให้เรียบร้อย
ด้านบนมีตำแหน่งไฟระเบียงให้ 1 จุด
จากพื้นที่ระเบียงมองเข้าไปยังพื้นที่ห้องนอนด้านในส่วน Walk-in closet และทางเข้าห้องน้ำ
พื้นที่โต๊ะเครื่องแป้งกว้าง
1.2 เมตร
วางโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ทางซ้ายมือของเตียงนี้ก็อยู่ในรายการขายพร้อมกับเก้าอี้ไม่มีพนักนี้นะคะ
โดยสามารถปรับเปลี่ยนเป็นการใช้งานโต๊ะทำงานได้เพราะมีลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ แฟ้มเอกสาร หรือเครื่องใช้ได้
Walk-in
Closet ที่อยู่ใกล้ห้องน้ำจะมีอยู่ทั้งสองฝั่ง โดยจะเป็นบานแบบดึงออก
วัสดุทึบ
สามารถติดกระจกเต็มตัวเพื่อที่หน้าบานได้ทำให้ใช้งานได้คุ้มเต็มพื้นที่
เปิดออกมาก็จะมีการแบ่งช่องการใช้งาน บ้างเป็นราวแขวนเสื้อ
บ้างเป็นชั้นสำหรับเสื้อที่ต้องพับ
โดยพื้นที่ Walk-in closet ที่อยู่ก่อนจะถึงห้องน้ำมีขนาดกว้างพอที่จะสามารถแต่งตัวได้สบายๆ
ต่อมาเป็นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 เซนติเมตร มีธรณีสูงขึ้นมาเหนือระดับพื้นนิดหน่อย
ภายในเป็นห้องน้ำแบบ
3 ส่วนคืออ่างล้างหน้าตรงกลาง
โถสุขภัณฑ์ทางซ้ายมือและพื้นที่อาบน้ำแบบยืนอยู่ทางขวามือ
โดยมีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำจาก American standard
ผนังกรุด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 60 เซนติเมตร
อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมมาพร้อมกับตู้เก็บของด้านล่างเป็นแบบเปิด
มีพื้นที่ข้างอ่างสามารถวางข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำได้สบายๆ
มาพร้อมกับปลั๊กไฟพร้อมที่ครอบกันน้ำ
ติดกับผนังคือตู้เก็บของส่วนซ้ายมือจะไม่มีบานปิด ส่วนขวามือมีบานปิดที่เป็นกระจกส่องหน้าบานใหญ่
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ
2 ส่วน โดยมีที่ใส่ทิชชูและสายฉีดชำระ
ด้านหลังมีการก่อเคาท์เตอร์สำหรับวางของได้นิดหน่อยไม่ว่างจะเป็นมือถือหรือหนังสือ
มองไปทางขวามือของห้องน้ำหลังประตูจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบยืน มาพร้อมกับฉากกั้นและประตูบานผลัก
พื้นที่อาบน้ำแบบยืนมีขนาด
1 x 1.1 เมตร
โดยมีการก่อปูนและปิดด้วยกระเบื้องให้เป็นพื้นที่นั่งอาบน้ำได้ด้านใน
พร้อมกับประตูที่เป็นฉากกั้นก็มีดีเทลของ Doorstop ให้ด้วย
ฝักบัวมีให้เลือก 2 อย่างคือแบบมือจับและแบบ Shower
ข้างๆกับที่ติดตั้งฝักบัวมีช่องวางของที่ค่อนข้างลึกและกว้าง ทำให้สามารถวางขวดแชมพูต่างๆได้จริง
แบบที่ยกมาให้ดูกันอีกห้องคือแบบ
1 ห้องนอนขนาด 36.36 ตารางเมตรที่อยู่ทางทิศเหนือของโครงการ
โดยนอกจากจะต่างกันที่ขนาดแล้ว แบบภายในยังแตกต่างกันมากพอสมควร
โดยรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ แบ่งพื้นที่ Living
อยู่ที่ส่วนหน้าและห้องนอนอยู่ทางด้านใน
เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอพื้นที่นั่งเล่นอยู่ส่วนแรก
โดยฝั่งซ้ายมือเป็นชุดโซฟา และฝั่งขวามือเป็นชั้นวางทีวี
ด้านในกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนสามารถเข้าไปยังห้องนอนได้เลย
ข้อเสียคือเมื่อมีเพื่อนมาที่ห้องอาจจะไม่มีความเป็นส่วนตัวมากเท่าไร
แต่การแบ่งห้องด้วยบานเลื่อนทำให้แสงเข้าถึงตัวห้องได้อย่างทั่วถึง
ส่วนทางขวามือจะมีทางเดินเข้าไปยังห้องน้ำ และห้องครัวที่อยู่ติดกับระเบียง
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 August 2016
- 1 Bedroom 36.3 – 46.3 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 59.9 – 71 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
- Fully Furnished คือ เฟอร์นิเจอร์ครบเซตและแอร์พร้อมทุกห้อง (ถ้าเลือกแบบ Fully furnished จะมีส่วนลดเป็น Case by case)
- Full Option คือแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าตามห้องตัวอย่าง
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Shuttle Bus ไปกลับ สถานี BTS อารีย์
- จองพร้อมทำสัญญา แบบ 1 ห้องนอน 50,000 บาท
- จองพร้อมทำสัญญา แบบ 1 ห้องนอน 100,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะคะ
ที่ตั้งของโครงการ D’Memoria อยู่ในซอยพหลโยธิน
8 ซึ่งเป็นซอยฝั่งเลขคู่ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในย่านพหล-อารีย์
แต่สภาพแวดล้อมและบรรยากาศจะเป็นโซนที่อยู่อาศัย
ที่ค่อนข้างเงียบสงบเป็นส่วนตัว
ต่างกับพหลโยธินฝั่งเลขคี่อย่างซอยราชครูและซอยอารีย์ ที่จะค่อนข้างคึกคัก
มีร้านอาหาร ร้านค้า และร้านนั่งชิลต่างๆอยู่เต็มพื้นที่
แต่ก็สามารถเดินทางไปใช้ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆที่ฝั่งนู้นได้สะดวกในระยะ
1-1.5 กิโลเมตร
พื้นที่โดยรอบเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยสถานที่ราชการอย่างกระทรวงต่างๆ
รวมถึงสถานที่ของทหาร อาคารสำนักงานใหญ่
และเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยบ้านหลังใหญ่เก่าแก่ของคนในพื้นที่
มีร้านอาหารขึ้นชื่อหลายร้าน และมี Community mall อย่าง La villa
เข้ามาเปิดพื้นที่สมัยใหม่เป็นเจ้าแรกๆ หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยร้านกาแฟ
ร้านขายของ ตลาดที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีการแข่งขันที่อยู่
และมีการปรับราคาไปเรื่อยๆในฝั่งซอยพหลโยธินเลขคี่จะมีโครงการจำนวนมากกว่า
ส่วนใหญ่เป็นโครงการ High rise และราคาก็จะสูงกว่าด้วย
การเดินทางโดยใช้รถค่อนข้างสะดวกเพราะซอยพหลโยธิน
8 (ซอยสายลม)
ถ้าวิ่งบนถนนพหลโยธินจากจตุจักรสามารถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลย
ส่วนถ้ามาจากสนามเป้าจะมีจุด U-turn
หน้าซอยที่สามารถใช้เป็นทางตัดเลี้ยวขวาเข้าซอยได้เช่นกัน
นอกจากนั้นช่วงกลางของซอยยังสามารถเชื่อมไปที่ซอยสุทธิสารได้อีกด้วย
ส่วนทางอื่นๆก็จากซอยพหลโยธิน 6 ที่ใกล้กับสถานี BTS ที่สุด
และจากซอยพหลโยธิน 2
ก็สามารถเชื่อมมาจากทางยกระดับตรงโรงพยาบาลทหารผ่านศึกได้เลย
ถนนหลายหลักสามารถใช้เส้นทางไปออกได้ทั้ง ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต
ซึ่งเป็นโทลล์เวย์เข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก
หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิต ,
ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดอยู่บนถนนพระราม6
โดยจะอยู่เยื้องๆกันแถวโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยและฝั่งตรงข้ามริมคลองประปา
ส่วนการเดินทางแบบไม่ใช่รถ
ที่นิยมสุดๆคือสถานี BTS อารีย์ ที่ตั้งแต่บนสถานีก็จะมีร้านขายอาหาร
ขายเครื่องดื่ม ขายของหวานกันเต็มไปหมด
ลงมาริมถนนพหลโยธินใต้ตัวสถานีก็สามารถเรียกพี่แท๊กซี่ได้เลย
มีอยู่ตลอดทั้งวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะไปหรือไม่ไป ส่วนการเข้า-ออกโครงการ
เนื่องจากเป็นโครงการในซอยเพราะฉะนั้นจะเดินค่อนข้างไกลหน่อย
หรือสามารถเรียกพี่วินที่หน้าปากซอยพหลโยธิน 6
จะเป็นทางที่สั้นที่สุดถึงโครงการและโครงการก็จะมี Shuttle Bus
บริการรับส่งระหว่างโครงการกับ BTS อารีย์ วัดระยะทางจากตัวโครงการถึง BTS
ทางออก 4 ที่เป็นทางขึ้นแบบบันไดเลื่อนประมาณ 900 เมตร
ส่วนเวลากลางคืนแนะนำให้ใช้ซอยพหลโยธิน 2 และ 8
จะมีคนพลุกพล่านและขนาดซอยที่ใหญ่กว่าเพื่อความสะดวก
ออกแบบตัวอาคารเป็นรูปตัว
I อยู่บนพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันออกไปทางซอยพหลโยธิน 8 ทั้งอาคารมี
123 ยูนิตซึ่งเยอะกว่าคอนโด Low rise ในแถบอารีย์ที่เป็นคู่แข่ง
แต่มีพื้นที่จอดรถชั้น 1 และชั้นใต้ดินด้วย มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ชั้น 1
มีพื้นที่ Lobby, Mailbox และห้องน้ำ ที่ชั้น 2-8 จะเป็นห้องพัก และมี
Facility ที่ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้า การวางผังห้องภายในชั้นๆหนึ่งเป็นแบบ
Double Corridor มีห้องทั้งหมด 3 แบบ ขนาดห้องตั้งแต่ 36.3 – 71 ตารางเมตร
เน้นไปที่แบบ 1 ห้องนอนไม่เกิน 44 ตารางเมตร
โดยรวมออกแบบห้องมาขนาดค่อนข้างใหญ่
แต่เนื่องจากราคาดีเมื่อเทียบกับคอนโดใกล้เคียง ทำให้ Package
ราคาอาจจะสูงกว่าไม่มากนักแต่ได้ห้องขนาดใหญ่กว่า
วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิว
อาคารก่อสร้างด้วยระบบ Conventional
หรือการก่ออิฐฉาบปูนที่จะมีความคงทนมากกว่าแบบ Pre-cast
ภายในห้องมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบชุดตามรูปแบบการขายอย่าง Fully Furnished
พร้อมแอร์ครบทุกห้อง ส่วนแบบ Full option
จะรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าตามห้องตัวอย่าง ถ้าไม่รับก็จะมีส่วนลดให้เป็น Case by
case ไป พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นไม้ลามิเนตเกือบทั้งหมด
ยกเว้นห้องน้ำที่ปูด้วยกระเบื้องแกรนิดโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ห้องครัวเป็นกระเบื้อง 60 x 60 เซนติเมตรเช่นกัน แต่ระเบียงจะปูด้วยขนาด 30
x 30 เซนติเมตร ฝ้าสูง 2.45 เมตร ผนังติด Wallpaper เรียบร้อย
ห้องครัวเคาท์เตอร์ครบพร้อม Hob and Hood สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก American
Standard มี Digital Doorlock ให้ภายในห้องนอนมี Built-in
ตู้เสื้อผ้าที่เป็นประตูบานเปิดแบบดึงออก 2 ฝั่งก่อนถึงห้องน้ำ
สาธารณูปโภคส่วนกลาง
ถ้าตามการใช้งานทั่วไปก็จะมีตามมาตรฐานคอนโด Low rise
ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ครบเท่าคอนโด High rise
แต่ถ้าตามความพยายามในการออกแบบถือว่าครบจาก Double Volume Lobby
ที่ข้างลิฟท์ ชั้น 1 และชั้นใต้ดินคือพื้นที่จอดรถทั้งหมด 71
คันหรือคิดเป็น 60% ชั้น Facility แบ่งออกเป็น 3 ชั้นคือชั้น 1,8
และชั้นดาดฟ้า โดยชั้น 1 จะมี Lobby ชั้น 8
จะมีห้องฟิตเนสและทางเดินขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าที่มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ
ไม่มีสระเด็ก ขนาด 3.5 x 12.5 เมตร โดยรอบๆก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น 2
จุดและปูหญ้าเทียม ส่วนด้านหลังโครงการจะเป็นพื้นที่งานระบบและบันไดหนีไฟ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 110,000 บาท/ตร.ม., 3 August 2016
- ทำเล 7.75/10 – อยู่ในทำเลอารีย์ แต่ฝั่งพหลโยธินเลขคู่ ทำให้ไกลจากความอุดมสมบูรณ์หน่อยในระยะ 1-1.5 กิโลเมตร
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เข้าได้จากถนนพหลโยธิน 3 เส้นทาง มีทางลัดออกสุทธิสาร
- ไม่ใช้รถ 7/10 – ระยะ 900 เมตรถึง BTS อารีย์ มี Shuttle bus
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished และ Full-option พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า+แอร์
- แบบ 7.5/10 – ห้องขนาดเริ่มต้นค่อนข้างใหญ่ มีห้องให้เลือกหลายแบบ
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – ที่จอดรถ 60% มีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Lobby ครบแต่ขนาดไม่ใหญ่มาก
- UPPER CLASS
- 7.56 / 10.00
BOTTOM LINE
D’Memoria
พหลโยธิน 8 เหมาะกับคนในพื้นที่ที่อยากมีคอนโดในทำเลเดิม
คนที่ทำงานพื้นที่ใกล้เคียง
หรือคนมองหาคอนโดในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ยอมอยู่ในซอยหน่อยและคอนโด Low rise แต่ราคาดีกว่าฝั่งอารีย์
ใช้รถส่วนตัวบ้าง ชอบโครงการที่มีความเป็นส่วนตัว จำนวนยูนิตไม่มากนัก
มีงบประมาณระดับ 3.8 – 7.7 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 27,000 – 54,000
บาท/เดือน
About thailand
Hi, My Name is Hafeez. I am a webdesigner, blogspot developer and UI designer. I am a certified Themeforest top contributor and popular at JavaScript engineers. We have a team of professinal programmers, developers work together and make unique blogger templates.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น